svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

คนไทยกักตัว 14​ วัน​ แต่ปล่อยนักท่องเที่ยวกลุ่ม​ประเทศ​เสี่ยง​เดินว่อน​

29 กุมภาพันธ์ 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การมีกฎหมายหรือคำสั่งเพื่อกักตัวประชาชนคงไม่เพียงพอ เพราะมันต้องหมายถึงเจ้าหน้าที่ในสนามบิน ที่สาธารณะอื่นๆ และการใช้ชีวิตในเมืองหรือย่านชุมชน มันต้องซีเรียส จริงจัง ไม่ใช่ระแวดระวังกันเฉพาะคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

มีคนไทยหลายคนที่เดินทางไปกลุ่มประเทศเสี่ยง โดยเฉพาะเกาหลี ไต้หวัน และญี่ปุ่น ที่กลับมาแล้วต้องกักตัวเองอยู่บ้านเป็นเวลา 14 วันเพื่อป้องกันโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 ซึ่งหลายคนที่ไปในช่วงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ไม่คาดคิดว่าจะต้องมาเจอกับการกักตัว หลังจากที่มีกรณีคุณปู่ ปกปิดประวัติการเดินทาง แล้วป่วยติดเชื้อ COVID-19 แพร่เชื้อให้กับคุณย่า และหลานจนทำให้เกิดผลกระทบวงกว้าง โรงเรียนปิด ธนาคารของลูกชายต้องปิดสาขาชั่วคราว สร้างความตื่นตระหนกไม่น้อย

ทำให้หลังจากนั้น คนไทยที่กลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จึงต้องเข้าสู่การกักตัวอย่างเคร่งครัด หากเดินเอ้อระเหยลอยชายหรือเดินทางไปที่อื่น ก็จะถูกสังคมประนาม ว่าไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม

ผลกระทบสำหรับคนไทยที่ต้องถูกกักตัว สำหรับบางคนการหยุดงาน 14 วันไม่ได้รับสิทธิ์ ต้องใช้สิทธิ์การลาจนหมด หรือบางทีต้องหยุดแบบไม่รับค่าจ้าง ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อรายรับ กลายเป็นกระแสดราม่าของคนในสังคมขึ้นมา

แต่อย่างไรก็ตามการกักตัว 14 วันเป็นฉันทามติร่วมกันของสังคมว่าคงต้องทำตามกฎนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

หากคนไทยที่กลับจากประเทศเสี่ยง เป็นส่วนที่ปฏิบัติป้องกันอย่างเข้มงวด แต่ก็น่าแปลกใจว่า ภาครัฐยังคงปล่อยให้นักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเดินทางเข้ามา ท่องเที่ยวประเทศไทย โดยไม่มีการกักตัว 14 วันเหมือนเช่นคนไทย เพราะเป็นห่วงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งย้อนแย้งกับการที่คนไทยกลับมาต้องกักตัว เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การควบคุมโรคจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร นี่จึงเป็นเรื่องที่น่าคิด

คนไทยที่กลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงถูกเรียกร้องให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ที่จะไม่แพร่เชื้อต่อ ไม่ว่าจะเป็นการหยุดงานโดยกวาดวันลาไปใช้ทั้งหมด หรือจะหยุดงานโดยไม่รับค่าจ้าง หรือจะทำงานที่บ้าน ก็นับเป็นความเสียสละอย่างหนึ่ง และเป็นความรับผิดชอบอย่างหนึ่งควบคู่ไปด้วยในตัว แต่ในขณะเดียวกันก็คงต้องทวงถามมาตรการป้องกันโรคจากรัฐบาลไทย ให้เข้มงวดกับทุกส่วน ไม่ใช่เข้มงวดเฉพาะกับส่วนที่ควบคุมได้คือประชาชนในประเทศ แต่ยังคงห่วงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งมันก็อาจไม่เป็นธรรมกับคนไทยที่ต้องกักตัว 14 วัน

ในจังหวะเดียวกันเรายังได้เห็นตั๋วของสายการบินต่างๆนานา ที่ลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลเย้ายวนตาคนที่มีต้นทุนต่ำ ใช้โอกาสนี้ที่ช่วงชีวิตทั้งขีวิต อาจไม่ได้เห็นราคาตั๋วไปญี่ปุ่น ไปเกาหลี ลดต่ำขนาดนี้อีกแล้ว เดินทางไปเปิดหูเปิดตา ซึ่งก็กลายเป็นอีกกระแสวิพากษ์วิจารณ์วิจารณ์ว่าควรจะรักชีวิตตัวเองมากกว่า รักการท่องเที่ยว

ไปๆมาๆแล้วเรื่องการหวาดระแวง COVID-19 คงขึ้นอยู่กับกลุ่มคน ที่มีวัตถุประสงค์ในการใช้ชีวิตต่างกัน จึงกลายเป็นดราม่าขึ้นมา คนกลัวก็กลัว คนไม่กลัวก็ไม่กลัว แต่ไม่ว่าใครจะกลัวหรือไม่กลัวทุกอย่างก็วัดกันที่ตัวเลขและความรุนแรงที่เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้

สิ่งที่อยากบอกก็คือ หลายๆ ประเทศ เขาป้องกันตัวเอง ป้องกันพลเมืองเขาดีกว่าประเทศไทย ซึ่งหมายความว่าถ้าไทยจะป้องกันการระบาดนี้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีกฎหมายหรือคำสั่งเพื่อกักตัวประชาชนคงไม่เพียงพอ เพราะมันต้องหมายถึงเจ้าหน้าที่ในสนามบิน ที่สาธารณะอื่นๆ และการใช้ชีวิตในเมืองหรือย่านชุมชน มันต้องซีเรียส จริงจัง ไม่ใช่ระแวดระวังกันเฉพาะคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

#วชิรวิทย์รายวัน

logoline