"ดร.เสรี" แนะ นศ.จัดแฟลชม็อบ หาข้อมูลให้รอบด้าน

รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.55 - 14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (28 ก.พ.) "ทอม ทศวรรต ทะสุวร" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ได้สัมภาษณ์ความคิดเห็น "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" ถึงประเด็นร้อนที่กำลังเกิดขึ้น

นอกสภาก็เดือดไม่ต่างกัน ตอนนี้สถานศึกษามีการชุมนุมแฟลชม็อบ?"ก็มีคนคาดการณ์แบบนี้ตั้งแต่ต้น ว่าการยุบพรรคอนาคตใหม่ อาจก่อให้เกิดกระบวนการแบบนี้ เพราะจริงๆ แล้วนิสิตนักศึกษา เจนวาย เจนแซดจำนวนมาก เขาชื่นชอบอนาคตใหม่อยู่แล้ว ฉะนั้นการที่เขาตัดสินให้ยุบพรรคอนาคตใหม่เขาก็ไม่พอใจ แต่มีคนไปถามนะว่าเขารู้เรื่องการตัดสินอะไรต่างๆ ไหม เขาบอกว่าไม่รู้หรอก แต่เขาไม่โอเคที่จะยุบ อันนี้เป็นสิ่งหนึ่ง และเกิดวาทกรรม ส.ส.ที่เขาพูดว่าเขาคือส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งจากคน 6 ล้านคน แต่โดนยุบโดยคน 7 คน ซึ่งเป็นตรรกะที่วิบัติมากๆ สมมติเราไปดูบอล มีคนดูหมื่นคน ชอบทีมฟุตบอลนี้แต่กรรมการให้ใบแดง มีเพียงไม่กี่คน ถ้าแฟนบอลบอกว่าพวกฉันหมื่นกว่าคนชอบเขามาก แล้วเธอ 3 คน เอาเขาออกได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้ หรือดาราคนหนึ่งขับรถชนคนตาย แล้วผู้พิพากษาตัดสินให้ติดคุก แล้วมาบอกว่าเขาเป็นดาราที่คนเป็นล้านชอบเลยนะ เธอ 3 คนจะจับเขาเข้าคุกเหรอ มันไม่ใช่ มันคนละหน้าที่กัน การเลือกตั้งเป็นการหาคนเข้าสภานิติบัญญัติ ถ้าจะเปรียบเทียบกับคน 6 ล้านคนที่เลือกเขา ต้องเปรียบเทียบกับใคร ต้องเปรียบเทียบกับมากกว่า 10 ล้านคนที่ไม่เลือกเขา ถ้าอย่างนั้นผู้พิพากษาต้องมานั่งบัลลังก์เป็นล้านคนเหรอ มันไม่ใช่ มันเป็นตรรกะที่วิบัติ"ล่าสุดมีผู้ใหญ่ออกมาตักเตือนว่านศ.โง่ อาจตกเป็นเหยื่อธนาธร มองว่ายังไง?"คำว่านักศึกษาโง่ เป็นคำที่แรงเกินไป ในเฟซบุ๊กมีผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนที่ห่วงเรื่องนี้ แต่เขาไม่ใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย เขาก็เตือนว่าหาข้อมูลให้ครบนะลูก ตรรกะแบบนี้มันใช้ไม่ได้นะ อาจมีคนที่ไม่ชอบอนาคตใหม่ และเป็นคนอายุน้อยที่ด่ากันเอง และขณะเดียวกันก็มีผู้ใหญ่ที่พยายามบอกเด็กพวกนี้ไม่ให้เด็กถูกหลอกว่าถ้ามีอาจารย์คนใด มีนักการเมืองคนใดมายุให้ออกมาชุมนุม หรือลงถนน ก็ให้ถามว่าอาจารย์จะมาด้วยหรือเปล่า ถ้าอาจารย์ไม่มามันก็เข้าข่ายหลอกนะ หรือนักการเมืองก็ต้องถามว่าเขาจะเอาลูกเมียออกมาด้วยหรือเปล่า ถ้าบอกให้นักศึกษาออกมา แต่ตัวเขาไม่ออกมา มันก็เข้าข่ายหลอกมาไหมล่ะ"นายกฯ บอกว่าอยากให้อยู่ในขอบเขต อย่าทำผิดกฎหมาย?"มันมีการชุมนุมมาหลายยุค หลายสมัย แต่การชุมนุมสมัยนั้นไม่มีกฎหมายว่าด้วยการชุมนุม แต่ตอนนี้มีแล้ว และต้องขออนุญาตหมด ถ้าเด็กออกมาไม่ไปขอ พอโดนจับขึ้นมาก็จะบอกว่าเป็นนิติสงครามอีกแล้ว นายกฯ ท่านก็บอกว่าท่านไม่โกรธ ไม่ว่า แต่ให้ระวังเรื่องกฎหมายด้วยก็แล้วกัน คนคิดต่างไม่โดนจัดการ แต่คนทำผิดกฎหมายต่างหากจะโดนจัดการ ถ้าเด็กทำอะไรฟังความไม่ครบด้าน แล้วเด็กไม่รู้กฎหมาย พอออกมากันแบบนี้ ถ้าโดนจัดการตามกฎหมายจะว่ายังไง ตอนนี้ถ้าดูป้ายประกาศหรือคำปราศรัย พี่เสียวไส้มาก หลายอย่างจาบจ้วงล่วงละเมิด หลายอย่างก้าวไปถึงชนิดที่ว่า คนหนึ่งพูดว่าใครที่สามารถสั่งประยุทธ์ได้ ใครสั่งองค์กรอิสระได้ แล้วเขาก็บอกว่ายกเลิกมาตรา 112 ก่อนสิ แล้วผมจะพูดให้ฟัง แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเด็กคนนี้พูดอะไร มันเสียวไส้แค่ไหน"

จะเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดประกายไปสู่เหตุการณ์ 14 ต.ค. หรือเปล่า?"ไม่เหมือนกัน ต่างกันมาก 14 ต.ค. นักศึกษาไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง ไม่มีใครชักจูง มีนักศึกษากลุ่มหนึ่ง 10 กว่าคน เขาบอกว่าการร่างรัฐธรรมนูญมันนานเกินไปแล้ว ก็เรียกร้องให้มีการร่างรัฐธรรมนูญ ปรากฎว่าโดนจับ นักศึกษาคนอื่นก็ไม่เห็นด้วย ก็เลยรวมตัวกันในธรรมศาสตร์ รวมตัวกันเยอะๆๆ แล้วก็ออกมา นี่เกิดจากความคิด ความอ่าน อุดมการณ์นักศึกษาเอง แต่รอบนี้มันไม่ใช่เช่นนั้นแน่นอน ถึงแม้บรรดานักศึกษาเขาบอกว่าเขาคิดเป็นอะไรเป็น แต่จริงๆ แล้ว เขาออกมาครั้งนี้อาจคิดเองอะไรเป็น แต่สืบเนื่องมาก่อนการเลือกตั้งแล้ว ที่มีการปลูกฝังต่างๆ นานา ต้องเปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่ อะไรต่างๆ อันนี้แหละ มันต่างกันกับสมัยก่อน"อยากให้ฝากนักศึกษา?"อยากบอกว่าลูกเอ้ยหลานเอ้ย ก่อนจะทำอะไรหาข้อมูลให้ครบด้าน แล้วเรียนกันมาขนาดนี้แล้ว หัดให้ตรรกะ ถ้าเราเปรียบเทียบว่าฝอยทองกับทองหยิบอะไรอร่อยกว่ากัน เป็นการเปรียบเทียบที่ถูกต้อง แต่ถ้าเราไปเปรียบเทียบว่าฝอยทองกับน้ำพริกกะปิอะไรอร่อยกว่ากัน มันไม่ได้ ฉะนั้น 6 ล้านกับ 7 คนมันเป็นเพียงวาทกรรม มันเรียกว่าตรรกะวิบัตินะลูกนะ อย่าไปทำเลย"