คุณกัมพล ตันสัจจา ประธานกรรมการสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า เรากำลังก่อสร้างโรงแรมแห่งใหม่ในโครงการสวนนงนุช 2 ในพื้นที่กว่า 500 ไร่ ที่พร้อมรองรับการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล (Tourism for All) รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ธุรกิจการฟื้นฟูสุขภาพในอนาคต
"เพื่อให้สวนนงนุชพัทยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเป็นมาตรสากลในระดับโลก ดังนั้น นอกจากความสวยงามของสวนสีสันพรรณไม้ต่างๆมากมายแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับเรื่องอารยสถาปัตย์ หรือ Friendly Design เป็นอย่างมาก" คุณกัมพลกล่าวถึงความพิเศษขแงโรงแรมแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้าง
"โรงแรมแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้าง จะเป็นโรงแรมที่เป็นเฟรนด์ลี่ดีไซน์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับผู้สูงอายุ ผู้พักฟื้นสุขภาพ และผู้พิการที่ใช้รถเข็น รวมถึงครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ให้ได้รับความสะดวกสบาย และปลอดภัย ซึ่งห้องพักของโรงแรมใหม่ทั้ง 42 ห้อง จะเป็นห้องพักที่เป็นอารยสถาปัตย์ทุกห้อง เพื่อให้มนุษย์ล้อทั้งผู้สูงวัย ผู้พิการ ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก สามารถเข้าพักได้อย่างสะดวกสบาย และปลอดภัย" ซีอีโอสวนนงนุชกล่าว
ในการก่อสร้างโรงแรมอารยสถาปัตย์แห่งใหม่นี้ คุณกัมพลยังได้เชิญเครือข่ายฑูตอารยสถาปัตย์มนุษย์ล้อนานาชาติ นำโดย คุณกฤษนะ ละไล ประธานมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล มาเยี่ยมชมและทำการสำรวจห้องพักตัวอย่าง เพื่อให้คำแนะนำในการปรับปรุงและพัฒนาอารยสถาปัตย์ ให้สามารถรองรับการใช้งานของคนที่ใช้รถเข็นได้อย่างถูกต้อง ใช้งานง่าย สะดวก ปลอดภัย และมีความเป็นมาตรฐานสากล
"ผมจะพยายามทำให้คนทุกวัยและทุกสภาพร่างกายสามารถเข้ามาใช้บริการต่างๆในสวนนงนุชได้ ตอนนี้เราสร้างโรงแรมเฟรนด์ลี่ดีไซน์มาได้ 4 เดือนแล้ว คาดว่าอีก 2 เดือนจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการได้"
"ที่นี่จะเป็นสถานที่พักผ่อนท่องเที่ยวได้โดยสะดวก และปลอดภัยสมบูรณ์แบบ คนทุกวัยในครอบครัว ทั้งคนสูงอายุ คนพิการ และมนุษย์ล้อ จะได้มาพักผ่อนท่องเที่ยวได้โดยสะดวกสบาย"
"เมื่อผมได้ทำแล้วก็รู้สึกมีความสุขที่ได้สร้างสิ่งที่มีประโยชน์แก่สังคม และทุกคน และที่สำคัญที่สุดคือ เพื่อประเทศไทยของเรา" คุณกัมพล กล่าวด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข
ทางด้านทีมงานทูตอารยสถาปัตย์มนุษย์ล้อนานาชาติ ทั้งคุณเยน มัสฟูร์ จากประเทศเยอรมนี และคุณรอดนี่ ก็อต จากประเทศออสเตรเลีย เห็นตรงกันว่า การสร้างโรงแรมอารยสถาปัตย์ของสวนนงนุชพัทยาที่ได้จัดทำห้องพักที่มี Friendly Design สำหรับผู้สูงอายุ และผู้พิการที่ใช้รถเข็นครบทั้ง 42 ห้องของโรงแรม ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรกในอาเซียน
และเป็นการประกาศความพร้อมที่ดีของประเทศไทยในการขยายตลาดการท่องเที่ยวไปสู่ธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล (Tourism for All) ที่จะรองรับการขยายตัวของตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัยจากทั่วโลก อีกทั้งรองรับธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical & Wellness Tourism) ที่กำลังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงท้าย คุณกัมพล ยังได้เชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยให้มาเที่ยวชมสวนนงนุชกันให้มากๆ เพราะเขาตั้งใจทำสวนแห่งนี้ขึ้นมา เพื่ออยากตอบแทนผืนแผ่นดินไทย ให้ได้มีสวนพรรณไม้ที่สวยงามตระการตาไม่แพ้ชาติใดในโลก
โดยเฉพาะช่วงนี้ ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาวิกฤติจากพิษไวรัสโควิด19 ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวไทยโดยตรง และรุนแรง จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะช่วยกันรณรงค์ไทยเที่ยวไทย และไทยช่วยไทย ให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยดี
"2 ปีมาแล้ว ที่สวนนงนุชเปิดได้ให้คนไทยเข้ามาเที่ยวฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าบัตรเข้าชมสวน เดือนละ 5 จังหวัด กับอีก 5 เขตในกรุงเทพฯ หมุนเวียนกันไปจนกว่าจะครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพราะเราอยากให้คนไทยได้มาเห็นสิ่งที่เราได้ตั้งใจทำเพือคนไทย อยากให้มาเห็นสิ่งที่ไม่คิดว่าเมืองไทยจะมี อย่างเช่นสวนลอยฟ้า ที่เป็นสวนใหม่ ใหญ่ที่สุดในโลก เราเปลี่ยนพรรณไม้ที่นำมาจัดแสดงในทุก 6 เดือน จึงอยากให้คนไทยทุกคนได้มาเที่ยวชม และได้ภาคภูมิใจว่าเราไม่น้อยหน้าชาติไหนๆในโลกนี้" คุณกัมพลกล่าวถึงสิ่งที่เขามุ่งมั่นอุทิศตนทำมากว่า 30 ปี
ไปเที่ยวสวนนงนุชพัทยาช่วงนี้ เหมือนได้ 3 เด้ง คือ 1. ได้เที่ยวชมสวนสวยงามล้ำค่าอลังการระดับโลกโดยฝีมือคนไทยล้วนๆ
2. ได้เยี่ยมชมอารยสถาปัตย์ ภายในสวนนงนุชพัทยา ที่พร้อมรับการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล
และ 3. ยังได้ช่วยกันรณรงค์ ส่งเสริม "ไทยเที่ยวไทย คือไทยเท่" อีกด้วยครับ