กรมควบคุมโรค สั่ง 50 นร.หยุดเรียนอยู่บ้าน 14 วัน หลังมี นร. ติดเชื้อ โควิด-19

พร้อมขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการอื่นให้ออกประกาศห้ามคนในหน่วยงานเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง ทั้งศึกษาดูงาน ลาพักร้อนไปเที่ยว ขอให้เลื่อนไปก่อน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าซื้อตั๋วราคาถูกไปเที่ยวในประเทศกลุ่มเสี่ยงตอนนี้ไม่คุ้มเพราะอาจจะติดเชื้อกลับมาได้ ขอให้ประชาชนเที่ยวในประเทศไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว และขอให้ประชาชนที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงถ้าป่วยไปหาหมอและอย่าปกปิดข้อมูลกับแพทย์ที่รับการรักษาโดยเด็ดขาดนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ โควิด-19 ว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยัน โควิด-19 เพิ่ม 3 ราย ทั้งหมดเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน โดยรายแรกเป็นชายไทย อายุ 65 ปี มีประวัติเดินทางกลับจากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น กลับมา 3 วัน แล้วมีอาการไข้ เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 ปัจจุบันมีอาการปอดอักเสบ รายที่ 2 เป็นภรรยารายแรก ไปเที่ยวด้วยกัน และมีอาหารไข้ ไอ ในวันที่ 3 ที่กลับมาจากเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และรายที่ 3 เป็นหลาน อายุ 8 ปี ไม่ได้ไปต่างประเทศด้วย แต่ใกล้ชิดผู้ป่วย 2 รายแรก มีอาการน้อย เพราะพามาหาหมออย่างรวดเร็ว ส่วนที่โรงเรียนที่หลานเรียนได้ปิดหยุดเรียน 14 วัน เฉพาะห้องที่หลานคนนี้เรียน
ตอนนี้ได้มีการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมดแล้ว 100% รวมถึงผู้ร่วมเดินทางในทริปและผู้ร่วมเที่ยวบินด้วย และยืนยันรายนี้ไม่ใช่ ซูเปอร์สเปรดเดอร์ คือบุคคลที่สามารถแพร่เชื้อให้แก่ผู้อื่นได้จำนวนมากในครั้งเดียว เหมือนกับเกาหลีใต้ เพราะป่วยแล้วเข้า รพ. และขณะนี้ประเทศไทยยังอยู่ระยะ 2 ยังไม่เข้าระยะ 3

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ส่วนที่มีความกังวลเรื่องโรงเรียนของเด็กชาย 8 ขวบ ทีมสอบสวนโรคของกรมควบคุมโรคและกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางไปที่โรงเรียนแล้วเมื่อเช้า เพื่อประเมินความเสี่ยง พบว่า เด็กอยู่ในห้องเรียนห้องเดียว ผู้ปกครองและครูตัดสินใจให้เด็กทั้งหมด 50 คน หยุดเรียน 14 วัน เพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อ สังเกตอาการ ทีมงานมีรายชื่อทุกคน ในระยะ 14 วันนี้ขอให้อยู่แต่ในบ้านเท่านั้น อย่าไปเที่ยวเล่น

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค บอกว่า ผู้ป่วยที่กลับมาจากญี่ปุ่นคราวนี้ไม่ใช่ ซูเปอร์สเปรดเดอร์ เพราะ ซูเปอร์สเปรดเดอร์ จะต้องแพร่เชื้อให้กับคนจำนวนมากกว่าค่าเฉลี่ย 10 คนขึ้นไป โดยค่าเฉลี่ยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 1 - 2 คน ซึ่งในกรณีข้างต้นมีการแพร่เชื้อให้กับหลานแค่คนเดียว