26 กพ.2563 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล - พลตำรวจโท ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วง วันที่ 2024 กุมภาพันธ์ 2563 พร้อมของกลาง อาวุธปืน เครื่องกระสุนจำนวนมาก และยาเสพติดอีกจำนวนมาก
พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม และปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 20 ถึง 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นคดีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและวัตถุระเบิด กลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมลักลอบผลิตและค้าอาวุธปืน กวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง รวมถึงการเพิ่มความเข้มตามจุดตรวจจุดสกัดต่างๆ เพื่อป้องปรามการพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และการมีอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตไว้ในครอบครอง
สำหรับผลการระดมกวาดล้างครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 51 คน ตรวจยึดอาวุธปืนมีทะเบียนได้ 37 กระบอก ปืนไม่มีทะเบียน 59 กระบอก กระสุนปืน 4,584 นัด ยาบ้า 186,000 เม็ด ไอซ์ 19 กิโลกรัม กัญชา 147 กิโลกรัม และเคตามีน 2 กิโลกรัม
โดยคดีที่น่าสนใจ อาทิ การปฏิบัติงานของตำรวจสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 ในการจับกลุ่มแหล่งผลิต จำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนผ่านทางโซเชียล ได้ตัวผู้ต้องหา 7 คน พร้อมของกลางหลายรายการ โดยเริ่มจากการจับกุมนายไพเราะ จันโฉม หลังพบว่ามีการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนออนไลน์ให้กับเครือข่ายและลูกค้า จากนั้นจึงได้ขยายผลถึงผู้ที่รับปืนไปจำหน่ายต่อ รวมทั้งลูกค้าที่สั่งซื้อจากนายไพเราะโดยตรง ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินคดีเอาผิดในข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองฯ"
ขณะที่ปฏิบัติการกวาดล้างอาวุธปืนในเขตกรุงเทพมหานคร จากทุกโรงพักในสังกัด กองบัญชาการตำรวจนครบาล สามารถยึดอาวุธปืนได้ทั้งหมด 59 กระบอก โดยจากเครือข่ายทั้งหมด มียุทธภัณฑ์บางส่วน ที่นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ ผอ.กอล์ฟ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าชิงทรัพย์ร้านทองที่ จ.ลพบุรี สั่งซื้ออาวุธด้วย
ขณะเดียวกัน ในปฏิบัติการกวาดล้างอาวุธในครั้่งนี้ ยังสามารถจับกุม นายปิยะ ศุขะพันธ์ อายุ 25 ปี และนายณัฐพล ดีแป้น อายุ 25 ปี ผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาบ้า 186,000 เม็ด, ไอซ์ 19.42 กิโลกรัม, กัญชา 147 กิโลกรัม และเคตามีน 2 กิโลกรัม ก่อนแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองฯ และข้อหาอื่นรวม 3 ข้อหา ส่วนนายณัฐพล ถูกดำเนินคดีในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครองครองฯ ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย
พลตำรวจโทภัคพงศ์ กล่าวว่า การระดมกวาดล้างครั้งนี้เป็นการปราบปรามอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย รวมถึงยับยั้งการ แพร่กระจายไม่ให้อาวุธปืนตกไปอยู่กับผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่ให้มีการซื้อง่ายขายคล่องเหมือนที่เคยทำมา รวมทั้งจะเพิ่มความเข้มตามด่านตรวจต่างๆ เพื่อไม่ให้มีการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ เป็นการป้องกันเหตุอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้น เพราะหากปืนตกอยู่ในมือของผู้ที่ขาดวุฒิภาวะ หรือคนที่ไม่รู้จักการยับยั้งชั่งใจ ก็จะทำให้เสี่ยงเกิดเหตุร้ายได้