ซักฟอกวันที่ 2 เริ่มแล้ว ฝ่ายค้านจี้ "บิ๊กตู่" ต่อเนื่อง

การเปิดประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 2 วันนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 9:30 ที่ผ่านมาโดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ ทำหน้าที่เป็นประธาน
นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางมาถึงที่อาคารรัฐสภาเวลา 09:15 น. มีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม โดยก่อนขึ้นไปเตรียมตัวเข้าประชุมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 2 ในวันนี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงสั้น ๆ ถึงประเด็นภาพรวมของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ ตอบเพียงว่า "ก็ดีขึ้น เรียบร้อย น่าจะโอเค"
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านเปิดเผยก่อนการขึ้นประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 2 ยอมรับว่า เมื่อวานที่ผ่านมามีการเตรียมตัวผิดพลาดหลายประการ ประการแรก ไม่คิดว่าข้อบังคับสภาหรือการวินิจฉัยจะให้รัฐมนตรีต่าง ๆ ขึ้นตอบแทนนายกฯ หรือตอบแทนกันได้ เมื่อให้ตอบแทนกันได้ก็ทำให้การขึ้นพูดหลายคน จึงทำให้เวลาก็หายไป และตัวผู้อภิปรายก็เตรียมมาอีกแบบหนึ่งซึ่งถือเป็นสถานการณ์ใหม่ ประการต่อมาที่ผิดพลาดคือเรื่องเวลา เมื่อมีคนพูดหลายคน การบริหารเวลาก็ต้องใช้เวลาเยอะบวกกับสถานการณ์ประท้วงซึ่งตกลงกันไว้ว่าจะประท้วงน้อย แต่กลับใช้เวลาการประท้วงที่เป็นเรื่องที่ไม่ใช่สาระ จึงทำให้ผู้อภิปรายคนสะดุด
แต่นายสุทินย้ำว่า วันนี้จะเริ่มปรับตัวเชื่อว่าวันนี้การอภิปรายจะน่าสนใจขึ้น
นายสุทิน ยังเปิดเผยอีกว่า เนื่องจากมีการประท้วงหลายครั้งอาจจะมีการหารือกันระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาลว่าจะต้องพิจารณาเปิดประชุมสมัยวิสามัญหรือไม่ และหากไม่อยากให้เปิดสมัยวิสามัญก็ต้องตอบเท่าที่จำเป็น

ส่วนการอภิปรายของพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส นายสุทินกล่าวว่า น่าจะพูดถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายและการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหลายเรื่อง และอาจรวมถึงการถวายสัตย์ปฏิญาณตนก็เป็นส่วนหนึ่ง แม้ว่าประธานรัฐสภาหรือนายชวน หลีกภัย ไม่ให้อภิปรายเรื่องนี้ประเด็นของ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่จะย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสุทินเปิดเผยว่า ก็มีติดต่อไปทุกพรรค ในจำนวนนี้ก็มีการย้ายไปซีกรัฐบาล 10 กว่าเสียง แต่ยืนยันว่าไม่วิตกและไม่มีผล ผู้อภิปรายก็สามารถทดแทนได้ ส่วนมือที่จะยกก็ไม่เคยคาดหวังว่าจะชนะอยู่แล้ว แต่ก็ไม่แน่อาจจะผิดพลาดหรือมีเซอร์ไพรส์จึงเชื่อว่าไม่กระทบ เพราะทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้มีห้ามในประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน ว่านายชวนเอาสภาผู้แทนราษฎรไปรับใช้ฝ่ายบริหารหรือไม่ และฝ่ายนิติบัญญัติมีหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหารแล้วจึงไม่สามารถห้ามได้ ในการประชุมครั้งที่ผ่านมา นายชวนพยายามช่วยฝ่ายบริหารมาโดยตลอด แม้แต่ในการประชุมกรรมาธิการที่เชิญนายกรัฐมนตรีมาก็ไม่ยอมมา และยังส่งคนมาป่วนการประชุมอีก ทั้งขอให้ยุติเรื่องดังกล่าวและจะถอดถอนตนจากตำแหน่งกรรมาธิการ ซึ่งเรื่องที่คนมาป่วนทำเป็นเรื่องผิดกฎหมายทั้งนั้น เพราะการแสดงข้อเท็จจริง หรือแสดงความคิดเห็นในสภาเป็นเรื่องของเอกสิทธิ์ จะฟ้องร้องหรือกล่าวในทางใดก็ไม่สามารถทำได้

นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวขึ้นชี้แจงในเวลา 9:50 น. ถึงประเด็นว่าการชี้แจงของรัฐบาลมีแนวทางแต่ละกระทรวงแตกต่างกัน เมื่อนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นผู้กำหนดนโยบาย กำหนดแนวทางในการทำงานลงไป แต่การทำงานไม่ใช่นายกสั่งได้แต่เพียงผู้เดียว เมื่อมีการกล่าวลงไปในรายละเอียด ก็จำเป็นต้องให้รัฐมนตรีคนอื่น ๆ ชี้แจง เพื่อไม่ให้ทำความเข้าใจผิดเพี้ยนไป จึงอยากให้ประชาชนทางบ้านรับฟังข้อเท็จจริงคำตอบของคำอภิปรายเพื่อสร้างความรับรู้ และการปรองดอง ไม่อยากให้แบ่งฝักแบ่งฝ่ายส่วนการใช้คำนำหน้าในการเรียกขานกัน นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ในส่วนของพลเรือนด้วยกันไม่ติดใจ แต่ในบรรดาทหารตำรวจที่ถวายสัตย์ปฏิญาณตนมาด้วยกัน จึงอยากให้รักษาศักดิ์ศรี และไม่ได้โกรธเคืองใครการชี้แจงในเรื่องแรก ในส่วนของที่ยังค้างอยู่คือกรณีหอชมเมือง เป็นโครงการของภาคเอกชน ที่จะก่อสร้างเพื่อรวบรวมเป็นภูมิสถานอยู่ภายใต้ที่ดินราชพัสดุจึงต้องมีระเบียบต่าง ๆ และระเบียบของรัฐที่ก่อสร้างราวทั้งหมดก็จะยกให้กับกรมธนารักษ์โดยใช้มูลค่า 4 พันกว่าล้านบาท เรื่องเหล่านี้ก็จะให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทยชี้แจงเพิ่มเติมสวนรถไฟฟ้าก็จะให้รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมชี้แจงเพิ่มเติม

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงประเด็นหอชมเมืองในเวลา 9.55 น.โดยกล่าวถึงรายละเอียดหอชมเมืองเพื่อให้เกิดความกระจ่างในการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ โดยโครงการหอชมเมืองนี้เกิดขึ้นมานานแล้วจากการรวมตัวของภาคเอกชนและสถาบันการเงินรวมกว่า 50 องค์กร ซึ่งจัดขั้นเป็นมูลนิธิหอชมเมืองขึ้นมาจึงเป็นมูลนิธิที่ระบุที่จะไม่ประสงค์แสวงหากำไรจดทะเบียนเป็นมูลนิธิเมื่อ 8 ตุลาคม 2557 ซึ่งสะท้อนว่ามีการหารือกันต่อเนื่องมาก่อนนำไปสู่การจัดตั้งมูลนิธิ หอชมเมืองก็เข้าไปเสนอกรมธนารักษ์ว่าขอใช้พื้นที่ของกรมธนารักษ์ในเขตคลองสานจำนวน 4 ไร่ 2 งาน 34 ตารางวา
พลตำรวจเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อชี้แจงในเวลา 10:00 น ที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นจากการชี้แจงเรื่องของรถไฟฟ้าสายสีทอง โดยระบุว่าแนวทางจะเป็นของหน่วยงานอื่น แต่สายรองท้องถิ่นจะเป็นผู้ดำเนินการกรุงเทพฯจึงบรรจุรถไฟฟ้าสายสีทองบรรจุ 8 สาย ยืนยันว่าเป็นไปตามแผนระบบการขนส่งโดยปกติต่อมาในระหว่างนั้นทางกรุงเทพฯซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจของกรุงเทพฯก็หาแนวทางที่จะลงทุนในส่วนนี้เพราะกรุงเทพฯไม่มีสภาพคล่องจึงต้องใช้วิธีใดวิธีหนึ่งในการลงทุนให้ได้ทางเขตจึงไปตกลงกับภาคเอกชนที่จะซื้อโฆษณาล่วงหน้าของเส้นทางสายสีทองนี้แล้วก็ให้จำนวนเงิน 2 พันกว่าล้านในรอบ 30 ปี ซึ่งเป็นมูลค่าเกินจากค่าโฆษณามาก

พลเอกอนุพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นกรุงเทพฯก็ให้ KT เป็นผู้ดำเนินการโดยไม่พึ่งพิงกับกรุงเทพฯโดยลง MOU เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่ออนุมัติให้ดำเนินการได้ถ้าเอกชนก็ให้งบประมาณกับเคทีเป็นค่าโฆษณา KT ก็ไปสร้างงานโยธาของรถไฟสายสีทองพลเอกอนุพงษ์ ยังกล่าวถึงความสำคัญของพลเมืองที่จำเป็นต้องมีรถไฟฟ้าหรือขนส่งมวลชนที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนโดยเฉพาะระบบราง ทั้งระบบหลัก และระบบรอง