ดาวโจนส์ดิ่งพันจุด รับข่าวไวรัสระบาดหนักนอกจีน

อย่างดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลงมากถึง 1,029 จุด หรือ 3.55 % นับเป็นการปรับตัวลดลงครั้งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ในรอบ 3 ปี ส่วนดัชนี S&P 500 ก็ปรับตัวลดลงประมาณเดียวกัน คือ 3.4 % แย่ที่สุดในรอบ 2 ปี เช่นเดียวกับดัชนีแนสแด็ก ก็ลดลง 3.7 % โดยกลุ่มหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลดลงมาก็อย่างเช่นกลุ่มสายการบิน และกลุ่มคาสิโน

ในฝั่งของยุโรป ดัชนี FTSE ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนก็ลดลงมากกว่า 3.3 % ตลาดเยอรมนี ลดลงมากกว่า 4 % ตลาดปารีสก็ลดลงเกือบ 4 % แต่ในส่วนของตลาดสำ คัญในเอเชีย ปรับตัวลดลงแค่เพียงเล็กน้อย อย่างนิกเคอิของญี่ปุ่นลดลงแค่เกือบ 0.4 % เซี่ยงไฮ้ก็ลดลงไม่ถึง 0.3 % และดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงลดลง 1.79 %
ขณะเดียวกัน ทางศูนย์เพื่อการป้องกันและควบคุมโรคหรือ ซีดีซี ของสหรัฐ ออกมายืนยันว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสในสหรัฐมีทั้งสิ้น 53 คนในตอนนี้ โดยในจำนวนนี้ก็รวมถึง 36 คน ที่เคยอยู่บนเรือ Diamond Princess , 3 คนที่อพยพกลับออกมาจากจีน และ อีก 14 คนที่พบในสหรัฐ ซึ่งตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันศุกร์ 18 คน ซึ่งส่วนมากเป็นผู้โดยสารเรือสำราญที่ญี่ปุ่น และคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐ ยังจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อผลการตรวจหาเชื้อ เริ่มที่จะออกมางานนี้ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐแซงหน้าประเทศไทยที่พบผู้ติดเชื้อ 35 คนไปเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็มีคำสั่งห้ามประชาชนของตนเองเดินทางมายังอิหร่าน และประเทศไทยอย่างไม่มีกำหนด เพื่อรับประกันเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของประะชาชนของตนเองจากปัญหาเรื่องไวรัส และขอให้คนของตนเองที่อยู่ในสองประเทศนี้ติดต่อกับสถานทูตหรือกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ในส่วนของอิตาลี ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 229 คน และมีผู้เสียชีวิต 7 ราย ซึ่งถือว่ามากที่สุดในยุโรป
สำหรับอิหร่าน ยืนยันผู้ติดเชื้อ 61 คน และเสียชีวิต 12 ราย มากที่สุดในโลก รองจากจีน ส่วนเกาหลีใต้ ยืนยันพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมเป็น 833 คน มากเป็นอันดับ 1 รองจากจีน และมีผู้เสียชีวิต 8 ราย
ในกรณีของอิตาลี เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกได้เดินทางไปที่อิตาลีเพื่อช่วยทางการอิตาลีทำความเเข้าใจกับปัญหาการระบาดของที่นั่น ที่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่แน่ใจว่าไวรัสเข้ามาระบาดในประเทศได้อย่างไร รวมถึงการพยายามจำกัดการระบาดของไวรัสระหว่างคนกับคนด้วย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก ก็เปิดเผยว่า ตอนนี้โลกถึงเวลาที่จะเตรียมตัวการสำหรับการระบาดไปทั่วโลกของไวรัสตัวนี้แล้ว เพราะในขณะที่การระบาดในจีนได้ลดลงอย่างมาก แต่การระบาดกลับขยายตัวมากขึ้นในเกาหลีใต้ และที่อื่นๆ นายเทดรอส เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก บอกว่า ไวรัสตัวนี้มีศักยภาพในการทำให้เกิดการระบาดไปทั่วโลก แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงขั้นนั้น ซึ่งการที่จะไปถึงขั้นนั้น จะต้องมีการประเมินการระบาดของไวรัสในเชิงภูมิศาสตร์ ความรุนแรงของการระบาดและผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ เขาบอกว่า ไวรัสที่เข้าไประบาดในแต่ละประเทศ ส่งผลกระทบในแต่ละประเทศ แตกต่างกันไป และต้องการการตอบสนองที่แตกต่างกันไป ไม่มีแผนการตอบสนองอะไรที่ใช้ได้กับทุกประเทศ
ในส่วนของจีน ทางองค์กรการเมืองระดับสูงสุุด อนุมัติการตัดสินใจเรื่อการห้ามประชาชนบริโภคและการซื้อขายสัตว์ป่าผิดกฏหมาย ที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเป็นแหล่งของไวรัสที่ระบาดมายังมนุษย์ในปัจจุบัน