ต่างชาติแบนผู้โดยสารจากเกาหลีใต้ หลังยอดติดเชื้อยังพุ่ง

สาธารณสุขเกาหลีใต้รายงานวันนี้ว่า ชายวัย 62 ปีเสียชีวิตด้วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เมื่อวานโดยเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลในเมืองชองโด ศูนย์กลางระบาดใหญ่อันดับสองของประเทศ และเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 7 ของประเทศนับตั้งแต่เริ่มพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศเมื่อปลายเดือนม.ค.

นอกจากนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 161 คน ซึ่ง 142 คนอยู่ในเมืองแทกู และจังหวัดคย็องซังเหนือ ที่อยู่ใกล้เคียง โดยเมืองแทกูเป็นศูนย์กลางระบาดใหญ่ที่สุด และจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศเพิ่มเป็น 763 คน นอกจากนี้มีทหาร 11 นายติดเชื้อและอีกเกือบ 7,700 นายถูกกักโรค ขณะที่สาธารณสุขกังวลมากยิ่งขึ้นว่าโรคโควิด-19 จะระบาดเป็นวงกว้างทั่วประเทศ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายภูมิภาค และส่วนใหญ่ไม่มีความเกี่ยวข้องชัดเจนกับจีน ที่เป็นแหล่งกำเนิดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 

เจ้าหน้าที่กำลังเร่งควบคุมการระบาด โดยจะตรวจสุขภาพประชาชนเกือบ 28,000 คนในเมืองแทกูที่มีอาการป่วยในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา  และยกระดับการเตือนภัยการระบาดเป็นระดับสีแดง หรือระดับสูงสุด ซึ่งเป็นการเตือนภัยระดับนี้ครั้งแรกนับจากการระบาดของไวรัส H1N1 เมื่อปี 2552 ส่วนโบสถ์ลัทธิชินชอนจี ที่เป็นศูนย์กลางการระบาดในเมืองแทกู สั่งปิดโบสถ์และอาคารใกล้กันรวม 1,100 แห่งทั่วประเทศและยกเลิกพิธีกรรมและกิจกรรมต่างๆ ทั้งหมดเพื่อควบุคมการระบาด แต่รัฐบาลยังไม่มีแผนห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากมณฑลอื่นของจีน ยกเว้น หูเป่ย ที่เป็นศูนย์กลางการระบาดเข้าประเทศ  ขณะที่ 6 ประเทศและดินแดน ได้แก่ อิสราเอล บาห์เรน จอร์แดน คิริบาติ ซามัว และอเมริกันซามัว ประกาศห้ามทุกคนที่อยู่ในเกาหลีใต้ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเข้าประเทศ นอกจากนี้อีก 9 ประเทศเพิ่มข้อจำกัดในการเฝ้าระวังผู้โดยสารที่มาจากเกาหลีใต้หรือให้กักโรคด้วยตัวเองหากสงสัยอาจติดเชื้อ