พร้อมด้วยคณะอำนวยการเฉพาะกิจจากจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดข้างเคียง รวมถึงจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ซึ่งเป็นคนในชุมชนได้ช่วยกันเร่งฉีดน้ำอย่างเต็มที่จนทำให้สามารถดับไฟบริเวณกองใบอ้อยได้แล้ว ยังคงเหลือเพียงควันภายในกองใบอ้อยและเจ้าหน้าที่ยังคงฉีดน้ำเลี้ยงเพื่อดับควันและป้องกันไม่ให้ติดไฟขึ้นมาอีก
โดยโรงงานฯ ขอเน้นย้ำว่าฝุ่นและควันจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบไปยังชุมชนในบริเวณใกล้เคียงเนื่องจากกระแสลมพัดเข้าตัวโรงงานและที่ตั้งของชุมชนอยู่เหนือทิศทางลม แต่อย่างไรก็ตาม โรงงานฯ ยังคงห่วงใยชุมชนและนึกถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ทีมมวลชนสัมพันธ์ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ ดูแลความปลอดภัยในชุมชนอย่างใกล้ชิด
พร้อมแจกหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นให้กับชุมชน รวมถึงมีโรงครัวพระราชทานและเจ้าหน้าที่พยาบาลคอยดูแลเจ้าหน้าที่และจิตอาสาผู้ปฏิบัติงาน จนถึงขณะนี้ ยังคงมีเจ้าหน้าที่ช่วยกันควบคุมเหตุการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแก่ชุมชนบริเวณใกล้เคียง และโรงงานฯ คาดการณ์ว่าจะสามารถควบคุมเหตุการณ์ให้กลับมาสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วันนี้
ทั้งนี้ โรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ ขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมว่าโรงงานฯ มีพื้นที่เก็บกองใบอ้อยทั้งหมด3 กอง โดยจุดที่เกิดเหตุคือเฉพาะบริเวณกองที่ 1 ในพื้นที่จำนวน 5 ไร่ ซึ่งมีปริมาณใบอ้อย 7,000 ตัน และภายหลังจากการเข้าตรวจสอบพบว่ามีความเสียหายเฉพาะด้านบนของกองใบอ้อยประมาณ 2,000 ตัน ไม่ได้เกิดความเสียหายทั้งหมดแต่อย่างใดอย่างไรก็ตาม ทางโรงงานฯ ขอเรียนยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ และขณะนี้ โรงงานฯ ได้เปิดดำเนินการตามปกติแล้วโรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ ต้องขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอเน้นย้ำว่าเรามิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และมีมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดเพื่อความปลอดภัยของทุกคนหากมีความคืบหน้าของเหตุการณ์ โรงงานน้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ จะเรียนแจ้งเพื่อทราบต่อไป