นายสรพงศ์ฯ กล่าวว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้เป็นระบบการขนส่งหลักของประเทศ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการออกแบบกลไกการกำกับดูแลอัตราค่าโดยสารและค่าบริการ ภายใต้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรฐานสากล สามารถนำมาบังคับใช้ได้จริงในทางปฏิบัติ และไม่ก่อให้เกิดภาระมากเกินควรแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ
นายสรพงศ์ฯ กล่าวต่อว่า การประชุมฯ ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเชิงลึกด้านกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการขนส่งทางรางในเรื่อง "การกำหนดอัตราค่าโดยสาร ค่าบริการ และการคุ้มครองผู้ใช้บริการ" เพื่อจัดทำกฎหมายลำดับรองตามร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. ... พร้อมทั้งมาตรการบังคับใช้กฎหมายในการกำกับดูแลและส่งเสริมการประกอบกิจการขนส่งทางรางให้มีคุณภาพและความปลอดภัย ประกอบด้วย 5 ด้าน ได้แก่ 1) มาตรฐานการประกอบกิจการขนส่งทางราง 2) มาตรการในการคุ้มครองผู้ใช้บริการ 3) หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางราง 4) การใบอนุญาตเป็นผู้ประจำหน้าที่ และ 5) การกำหนดค่าโดยสารและค่าบริการ
นอกจากนี้ ยังได้เปิดเวทีรับฟังความเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ และประชาชน ได้มีส่วนร่วมระดมความเห็นต่อการกำหนดอัตราค่าโดยสาร ค่าบริการ และการคุ้มครองผู้ใช้บริการ"ด้วยกฎหมาย ซึ่งกรมการขนส่งทางรางจะรวบรวมข้อมูล ความคิดเห็นได้ ไปใช้กำหนดอัตราค่าโดยสาร ค่าบริการ และการคุ้มครองผู้ใช้บริการ ให้เข้ากับบริบทของประเทศไทยในปัจจุบัน และสอดคล้องกับการพัฒนาระบบรางที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป