svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

สมอ. ผนึกญี่ปุ่นต่อยอดโครงการ 'ความปลอดภัยผลิตภัณฑ์'

18 กุมภาพันธ์ 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สมอ. ผนึกกําลัง METI ประเทศญี่ปุ่น เดินหน้าต่อยอดโครงการ "ความปลอดภัยผลิตภัณฑ์ (Product Safety) พัฒนาฐานข้อมูลอุบัติเหตุ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยประชาชนจากการใช้สินค้า หลังลงนามความ ร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ. ใน ฐานะผู้แทนประเทศไทย ได้ร่วมกับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (Ministry of Economy, Trade and Industry (METI) ประเทศญี่ปุ่น จัดทําโครงการ "ความปลอดภัยผลิตภัณฑ์ (Product Safety) ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน 

สมอ. ผนึกญี่ปุ่นต่อยอดโครงการ 'ความปลอดภัยผลิตภัณฑ์'


เพื่อถ่ายทอดวิธีการจัดเก็บข้อมูลอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และการวิเคราะห์ หาสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ให้แก่เจ้าหน้าที่ สมอ. สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกอง พิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐ.) สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ตลอดจนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมของไทย เพื่อนํามาศึกษา และแลกเปลี่ยนข้อมูลในการจัดทําฐานข้อมูลอุบัติเหตุจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภคในประเทศไทย รวมถึงการ นําข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์วิจัยถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบและรูปธรรม ทํา ให้ทราบถึงสาเหตุและแนวทางในการป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ เพื่อลดความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของ ผู้บริโภคในอนาคต
จากความร่วมมือของ สมอ. และ METI มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ และผู้ประกอบการ อุตสาหกรรมผ่านการฝึกอบรมแล้วกว่า 90 ราย ซึ่งการฝึกอบรมดังกล่าวได้เสริมสร้างความรู้ ความสามารถใน การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้ความร่วมมือในการดําเนินงาน ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคของทั้ง 2 ประเทศ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โครงการดังกล่าวจะสิ้นสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นี้ สมอ. 
จึงได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับ METI เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา เพื่อผนึกกําลัง ร่วมกันพัฒนางานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทําให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาและ จัดทําฐานข้อมูลอุบัติเหตุจากการใช้สินค้าได้อย่างสมบูรณ์และครอบคลุม ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการควบคุม สินค้าออนไลน์ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคของทั้งสองประเทศร่วมกันอีกด้วย นับเป็นการยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น
เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีหน่วยงานใดที่จะดูแลการจัดทําฐานข้อมูล ดังกล่าวโดยตรง สมอ. จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐ.) สํานักงานตํารวจแห่งชาติ จัดตั้งคณะทํางานจัดทําฐานข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดจาก การใช้ผลิตภัณฑ์ เพื่อประโยชน์ต่อการคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศต่อไปในอนาคต

logoline