คดีหนีกักโรค COVID-19 ที่รัสเซีย ศาลพิพากษาให้กลับไปที่โรงพยาบาล
ศาลในรัสเซียพิพากษาให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่หลบหนีออกจากการกักกันโรค หลังจากที่เดินทางกลับมาจากจีน ให้กลับไปที่โรงพยาบาล เพื่อกักกันโรคต่ออีก 2 วันเป็นอย่างน้อย
อัลล่า อิลลิน่า เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเมืองเซ็นต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา หลังมีอาการเจ็บคอ เธอจึงถูกตรวจเพื่อหาไวรัสตัวใหม่ เนื่องจากเพิ่งกลับจากจีนเมื่อ 5 วันก่อน แต่ในวันต่อมาเธอได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาล หลังจากที่ทราบว่าเธอต้องอยูู่ที่โรงพยาบาลนาน 14 วัน แทนที่จะเป็นวันเดียวตามที่หมอบอก เธอบอกว่าหมอบอกกับเธอว่าผลการตรวจไม่พบไวรัสตัวใหม่ แต่ก็ต้องถูกกักโรคอยู่ดี
ทนายของเธอโต้แย้งในชั้นศาลว่า ลูกความไม่ได้เป็นอันตรายต่อใคร และเธอได้รับอนุญาตให้เข้ามาในห้องพิจารณาคดีที่เต็มไปด้วยผู้คน ที่ก็ไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัย แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุุขเอง
ขณะที่เจ้าตัวเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งว่า ในห้องที่เธอถูกกักโรค ไม่มีหนังสือ แชมพูสระผม หรือไวฟาย ขณะที่ถังขยะก็ไม่เคยมีใครเอาไปเท ประตูห้องก็ปิดล็อคด้วยระบบไฟฟ้า เธอก็เลยทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรแล้วก็หนีออกมา
ทางการรัสเซียได้ฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อให้เธอกลับไปกักโรคต่อที่โโรงพยาบาล โดยให้เหตุผลว่าการกักโรค เป็นมาตรการจำเป็นในการหยุดยั้งการระบาดของไวรัสที่อาจฟักตัวอยู่ในร่างกายได้นาน 24 วันศาลจึงมีคำสั่งให้เธอกลับไปสู่การกักโรคต่อจนถึงวันพุธเป็นอย่างน้อย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ยังมีอีกอย่างน้อย 3 คนที่หนีการกักกันโรคจากโรงพยาบาลแห่งเดียวกันนี้ โดย 2 คนได้กลับมาแล้ว แต่ผู้หญิงคนหนึ่งยังคงหลบหนีอยู่ ซึ่งทางการก็กำลังฟ้องร้องเธอเช่นกัน
รัสเซียพบผู้ป่วยโรค COVID-19 จากไวรัสตัวใหม่นี้แค่ 2 คน ซึ่งเป็นคนจีน และเข้ารับการรักษาจนหายแล้ว แต่ประเทศก็ยังดำเนินมาตรการด้านการป้องกันและควบคุมไวรัสต่อไป
ส่วนที่สหรัฐ หลังจากที่ผู้โดยสารจากเรือสำราญ ไดมอนด์ ปริ้นเซส ที่จอดเทียบท่าอยู่ที่ญี่ปุุ่นเกือบ 400 คน เดินทางกลับบ้าน เพราะสหรัฐเกรงว่าหากอยู่บนเรือต่อไป มีความเสี่ยงสููงว่าอาจจะติดเชื้อไวรัสตัวใหม่นี้ได้ ปรากฏว่าผู้โดยสาร 13 คน ถูกนำตัวมาดูแลที่ศูนย์กักกันโรค ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนบราสก้า เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่อาจจะติดเชื้อ โดยคนเหล่านี้ผลการตรวจที่ออกมาบ่งบอกกว่ามีทั้งที่ติดเชื้อและน่าจะติดเชื้อ โดยมีอยู่คนหนึ่ง ต้องถูกนำตัวไปแยกรักษาต่างหาก เพราะมีอาการปวดหัวและไอเล็กน้อย แต่เขามีอาการป่วยเรื้อรังอยู่ก่อนแล้ว ส่วนคนอื่น ๆ ยังไม่มีอาการ แต่ผลการตรวจจากญี่ปุ่น บอกว่ามีความเเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ