svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

Nation Documentary | ถอดบทเรียนกราดยิงโคราช

16 กุมภาพันธ์ 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทีมแพทย์จากกรมสุขภาพจิตเดินสำรวจสภาพจิตใจของญาติผู้เสียชีวิตที่มารอรับศพ โดยสอบถามอาการว่านอนหลับหรือไม่ กินข้าวได้หรือไม่ซึ่งหากพบว่าญาติของผู้เสียชีวิตคนใดเริ่มมีอาการเบื่ออาหารและนอนไม่หลับก็จะนำแยกเข้าไปพูดคุยในอีกห้องหนึ่ง โดยจากทั้งญาติผู้บาดเจ็บ ผู้บาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิต 276 คน 91 คนพบมีความเครียดสูง คิดเป็น 36% ซึ่งเป็นยอดสถิติที่สูงมากเท่าที่กรมสุขภาพจิตเคยเก็บข้อมูลมา

ก่อนรุ่งเช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ยังคงทยอยนำประชาชนที่ติดอยู่ภายในห้างเทอมินัล 21 อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเสียงปืนที่มีขึ้นเป็นระยะ 
ทีมข่าวชั่วโมงสืบสวนอยู่สังเกตุการณ์บริเวณด้านหน้าห้างดังกล่าว และระมัดระวังการนำเสนอข่าวในช่วงที่เกิดเหตุการณ์อย่างรอบครอบที่สุด  เราได้พบกับประชาชนกลุ่มนี้ ที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้เมื่อตอน ตี 3 
จุฑารัตน์ ภาสกานนท์ หนึ่งในผู้รอดชีวิต เล่าว่า เดินทางมาถึงห้างเมื่อตอน 4 โมงเย็น ระหว่างเดินซื้อของอยู่ภายในห้างชั้นใต้ดิน เห็นคนพากันวิ่งหนีขึ้นลิฟท์  แต่ก็เริ่มมีการปิดประตูไม่ให้ออก ก็เลยหลบไปอยู่ในฟิตเนส เจ้าหน้าที่ฟิตเนสให้เข้าไปหลบอยู่ในห้องโยคะตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น ให้ทำตัวเงียบที่สุด และปิดโทรศัพท์
เธอบอกว่า ในระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืน เป็นระยะ แต่ไม่เห็นตัวคนร้าย เพื่อนที่ติดอยู่ด้วยกันเอาแท่งออกกำลังกายมาขวางกั้น แล้วก็ไปแอบอยู่ในนั้นประมาณ 10 คน บางส่วนเข้าไปแอบในห้องน้ำ และพยายามตั้งสติ โดยในจังหวะที่เจ้าหน้าที่ ช่วยเหลือออกมา ดูเหมือนว่าจะออกมาเป็นกลุ่มสุดท้าย เพราะว่าผู้ร้ายอยู่ที่ชั้นเดียวกันกับตน 
สมร ฉุนกระโทก เป็น ผู้รอดชีวิต อีกคนที่ยินยอมในทีมข่าวชั่วโมงสืบสวนสัมภาษณ์ เธอเล่าว่า า ระหว่างออกกำลังกายในฟิตเนส หลังได้ยินเสียงปืนวิ่งไปหลบอยู่ในห้องน้ำ ท่ามกลางความหวาดกลัว พยายามตั้งสติ และติดต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมกับทำตัวให้เงียบที่สุด
ส่วนเด็กชายวัย 10 ขวบคนนี้ หลบอยู่กับกลุ่มผู้ใหม่ภายในฟิสเนต ซึ่งเหตุเกิดระหว่างที่เขากำลังเรียนพิเศษกับเพื่อน การเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงเช่นนี้ สร้างความกังวลแก่ครอบครัวอย่างมาก แม่ของเด็กชายคนนี้บอกให้เขาตั้งสติและกำหนดลมหายใจเข้าออก พุท โธ  เช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ยังยังมีประชาชนที่ติดค้างอยู่ภายในห้าง เจ้าหน้าที่พยายามเคลียร์พื้นที่นำประชาผู้บริสุทธิออกมา 9 คนสุดท้าย 
9 โมงเช้า ได้รับการยืนยันว่าเจ้าหน้าที่วิสามัญ ผู้ก่อเหตุเสียชีวิต คุมสถานการณ์ได้ มีผู้เสียชีวิตรวม 30 ราย และ บาดเจ็บ 58 ราย นับเป็นเหตุการณ์กราดยิ่งในที่สาธารณะครั้งแรกในประเทศไทย 
ที่ รพ.มหาราช นครราชสีมา มีการระดมทีมแพทย์นิติเวชจากทางในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และจากทางส่วนกลาง มาช่วยชันสูตรพลิกศพ และแต่งศพของผู้เสียชีวิตที่มีจำนวนมากให้ทันตามความต้องการของครอบครัวที่ต้องการรับศพไปทำพิธีรดน้ำศพ  นี่คือ ญาติของผู้เสียชีวิตที่เป็นพลทหารเฝ้าหน้าคลังอาวุธ ที่คนร้ายยิงจนเสียชีวิต ก่อนจะปล้นกระสุนไป นายอุดม ปะโกทะสังข์ เป็นตาของพลทหารเมธา เลิศศิริ ทหารเกณฑ์ที่กำลังจะปลดประจำการอีกไม่กี่เดือนบอกว่า เขาเป็นเสาหลักของบ้านแล้ว ยังเป็นพ่อของหลานวัย 4 ขวบ ซึ่งหลังจากนี้ ต้องรับภาระเลี้ยงหลานคนเดียว
สุนัขพันธุ์ชิวาวา ที่ชื่อโกกิ ตัวนี้วิ่งหนีเข้าป่า หลังจากนายจิรวัฒน์ รักกลาง ถูกยิงเสียชีวิต ที่บริเวณวัดป่าศรัทธารวม ขณะขี่มอเตอร์ไซค์

นางสาว รัตนติกา นามบุตร ภรรยา มารับศพสามีที่โรงพยาบาล เธอและสามี ไม่มีลูกด้วยกัน เลี้ยงสนุขตัวนี้อายุ 1 ปี กว่า เหมือนหนึ่งเป็นลูก 
อีกครอบครัวผู้สูญเสีย 3 พ่อ แม่ ลูกภายในห้างเทอมินัล นายเหนือ โภชน์พัน เป็นพี่ชาย ฝั่งหญิงที่เป็นแม่เด็กวัย 2 ขวบ ยินยอมให้ทีมข่าวได้สัมภาษณ์ เปิดเผยถึงขั้นตอนการทำไปประกอบพิธีกรรมว่าจะไม่แยกนำไปบำเพ็ญกุศล เพราะทั้ง 3 คนเป็นครอบครัวที่รักกันมาก เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับญาติของตัวเอง ทำให้เกิดความคับแค้นใจ
บรรยากาศในโรงพยาบาล จึงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทีมแพทย์จากกรมสุขภาพจิตเดินสำรวจสภาพจิตใจของญาติผู้เสียชีวิตที่มารอรับศพ โดยสอบถามอาการว่านอนหลับหรือไม่ กินข้าวได้หรือไม่ซึ่งหากพบว่าญาติของผู้เสียชีวิตคนใดเริ่มมีอาการเบื่ออาหารและนอนไม่หลับก็จะนำแยกเข้าไปพูดคุยในอีกห้องหนึ่ง โดยจากทั้งญาติผู้บาดเจ็บ ผู้บาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิต 276 คน 91 คนพบมีความเครียดสูง คิดเป็น 36% ซึ่งเป็นยอดสถิติที่สูงมากเท่าที่กรมสุขภาพจิตเคยเก็บข้อมูลมา
หลังเกิดเหตุกราดยิง 5 วัน มีการจัดกิจกรรม Big cleaning ครั้งใหญ่ มีประชาชนและหน่วยงานต่างๆเข้าร่วมนับหมื่นคน กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการกล่าวคำอโหสิกรรมให้แก่ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาบอกว่ากิจกรรม Big cleaning พยายามแสดงให้เห็นว่าเมืองได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

มี 3 จุดที่ประชาชนร่วมกันทำกิจกรรม Big cleaning ตั้งแต่บริเวณวัดศรัทธารวม กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 รวมไปถึงห้างเทอร์มินอลทเวนตี้วัน โดยทั้ง 3 จุดเป็นจุดที่เกิดเหตุ
ที่นี่เราได้พบกับ นงนุช จอดนอก ประชาชนจิตอาสาที่มาช่วยทำความสะอาดที่หน้าห้างเทอร์มินอล เธอยังรู้สึกตกใจและยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่ในฐานะที่เป็นคนโคราช อยากทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นสร้างขวัญและกำลังใจให้กลับคืนมา
วิภาวัลณ์ ดาวเศรษฐ์  ประชาชนจิตอาสา อีกคน บอกว่า มาด้วยใจ เพราะน้องสาวอยู่ในเหตุการณ์และโทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือได้ยินเสียงปืนผ่านโทรศัพท์ ก็รู้สึกว่าเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญน่าตกใจ อยากมาช่วยมีส่วนร่วมในการทำความสะอาด ให้สถานการณ์กลับมาเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
ส่วนผู้หญิงคนนี้ คือ พิมพ์ชนก ชุมจอหอ แม้การทำความสะอาด ทำให้ความรู้สึกทางใจดีขึ้น เหมือนเป็นตัวแทนของประชาชน ช่วยกันล้างสิ่งไม่ดีออกไป แต่ก็เป็นเรื่องยากที่คนโคราชที่จะลืม 
อาจเป็นเรื่องยากที่จะลืม แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่ต้องทำให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะทั้งทางด้านสังคมหรือ จิตใจของผู้คน เพื่อเดินหน้ากันต่อไป

logoline