svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

การใช้ "ไวอากร้า" อาจทำให้มีผลค้างเคียง

14 กุมภาพันธ์ 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คำว่าฟ้าเหลือง ที่หลายคนชอบพูด ความหมายจริงๆ อาจจะไม่ใช้อย่างที่หลายๆคนคิด โดยเพจดัง ToxicAnt - เพราะทุกสิ่งล้วนเป็นพิษ ได้ออกเผยถึงที่มาของคำว่า ฟ้าเหลือง ซึ่งที่จริงแล้วมีผลมากจากการใช้ "ไวอากร้า" จนมีผลค้างเคียง

ไวอากร้า อาจมีผลข้างเคียงทำให้เห็นภาพ-สี ผิดเพี้ยนนี่ไม่ได้หมายถึงอาการฟ้าเหลืองอย่างที่หลายคนคิด แต่หมายถึงความผิดปกติในการมองเห็นที่เกิดขึ้นหลังจากร่างกายได้รับสารซิลเดนาฟิล (Sildenafil) หรือที่รู้จักกันในชื่อการค้าว่า ไวอากร้า (Viagra) และอาการผิดปกตินี้อาจคงอยู่นานเป็นสัปดาห์ไวอากร้าเป็นยารักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพยอดนิยมที่ใช้มานานกว่า 20 ปี เป็นที่ยอมรับว่าค่อนข้างปลอดภัยเมื่อใช้อย่างเหมาะสม แม้จะพบผลข้างเคียงบ้าง เช่น ทำให้ปวดหัว หน้าแดง ความดันต่ำ ตาอ่อนไหวต่อแสง แต่ก็มีอาการเพียงเล็กน้อยและหายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงแต่ในผู้ใช้ยาบางราย ผลข้างเคียงรุนแรงว่านั้น มีรายงานผู้ป่วยที่เข้ารักษาอาการผิดปกติในการมองเห็นอย่างมาก 17 เคส ในตุรกี ทั้งหมดเป็นการกินไวอากร้าครั้งแรก ในปริมาณ 100 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นโดสสูงสุดที่แนะนำให้ใช้ และเข้าพบแพทย์เพราะพบอาการผิดปกติหลังกินยา 24-48 ชั่วโมงจากการตรวจวัดสมรรถภาพในการมองเห็นด้วยเครื่องมือต่างๆ พบว่า แต่ละผู้ป่วยคนมีอาการมองเห็นผิดปกติหลายอย่างผสมๆ กันไป เช่น
- ตาพร่ามัว
- ตาสู้แสงไม่ได้ (Photophobia)
- เห็นภาพรอบตัวเป็นสีโทนฟ้า-น้ำเงิน (Cyanopsia)
- อาการตาบอดสีแดงหรือสีเขียว (เห็นแดงหรือเขียวเป็นสีน้ำตาลตุ่นๆ)การตรวจวัดประสิทธิภาพในการทำงานของเซลล์โคน (Cone Contrast Test) ที่เป็นตัวรับแสงสีต่างๆ 

ผลปรากฏว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่เซลล์โคนมีความบกพร่องในการรับแสงสีใดสีหนึ่ง โดยเฉพาะสีน้ำเงิน ซึ่งความผิดปกตินี้มักพบร่วมกับอาการตาสู้แสงไม่ได้ที่สำคัญคือผู้ป่วยทุกรายมีอาการผิดปกตินานถึง 21 วัน ยาวนานกว่าผลข้างเคียงทั่วไปที่มักหายใน 4-5 ชั่วโมงยังไม่มีใครรู้ว่าอาการข้างเคียงนี้เกิดจากอะไร หรือไวอากร้าไปออกฤทธิ์กับเซลล์โคนอย่างไรแต่ก่อนเคยเชื่อกันว่าผลข้างเคียงน่าจะเกิดจากสรรพคุณในการขยายหลอดเลือดฝอยเช่นเดียวกับที่เกิดบริเวณอวัยวะเพศ คือ ไวอากร้าไปขยายหลอดเลือดในลูกตา แล้วรบกวนการมองเห็นแต่เคสหายากที่ผลข้างเคียงอยู่ทนนานถึง 21 วัน ชี้ให้เห็นความเป็นไปได้ว่าไวอากร้าน่าจะมีเอฟเฟ็คอย่างอื่นที่นอกเหนือจากแค่ขยายหลอดเลือดที่ส่งผลต่อตาก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยเกี่ยวกับความเป็นพิษของไวอากร้าต่อการมองเห็นที่ทดสอบในหนูทดลองการทดลองใช้หนูดัดแปลงพันธุกรรมที่มียีนผิดปกติของโรค Retinitis Pigmentosa (อาการผิดปกติของดวงตาที่ทำให้เกิดอาการตาบอดกลางคืน) ซึ่งโดยปกติจะไม่มีปัญหาในการมองเห็นแต่เรตินาของหนูที่ตัดต่อพันธุกรรมจะอ่อนแอกว่าปกติ ทำให้อ่อนไหวต่อสารพิษออกฤทธิ์ต่อดวงตานักวิจัยให้ไวอากร้าโดสสูงที่เทียบเคียงได้กับ 5-50 เท่า ของโดสปกติที่ใช้กับคนหนัก 70 กิโลกรัหนูที่ได้รับไวอากร้ามีความผิดปกติในการมองเห็น ตาอ่อนไหวต่อแสงมากขึ้นเมื่อวัดค่าทางไฟฟ้าจากการตอบสนองต่อแสงของเรตินาตาออกมาเป็นตัวเลข พบว่ามีค่าลดลงสอดคล้องกับการตรวจสอบเนื้อเยื่อเรตินาที่พบว่ามีตัวรับแสงลดลง

ในหนูทดลองที่ไม่ดัดแปลงพันธุกรรม อาการผิดปกติที่ตาคงอยู่ประมาณ 48 ชั่วโมงแต่ในหนูที่ดัดแปลงพันธุกรรม ใช้เวลานานถึง 2 สัปดาห์กว่าอาการผิดปกติจะหายไป
งานวิจัยนี้ชี้ว่า ลักษณะพันธุกรรมบางอย่างส่งผลให้ร่างกายตอบสนองความเป็นพิษของไวอากร้ามากกว่าปกติ เกิดผลข้างเคียงรุนแรงกว่าปกติผลข้างเคียงในคนก็อาจเป็นลักษณะเดียวกัน คือ ขึ้นอยู่กับความแปรผันเล็กๆ น้อยๆ ในพันธุกรรมของเรา ซึ่งส่งผลต่อความทนทานของเซลล์เรตินา หรือแม้แต่ความสามารถในการย่อยสลายตัวยาไวอากร้าออกจากร่างกายซึ่งสุดท้ายแล้วทำให้ความรุนแรงจากผลข้างเคียงจากไวอากร้าแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลอย่างไรก็ตามก็ต้องรอให้นักวิทยาศาสตร์ศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจนกว่านี้สำหรับบุคคลทั่วไป ควรตระหนักไว้ว่ายาไวอากร้าเป็นยารักษาโรค เป็นยาควบคุมพิเศษ ที่ควร (ต้อง) มีแพทย์กำกับดูแลในการใช้ยา ไม่ควรซื้อหายามากินเอง หรือเอามาใช้เพื่อความบันเทิง เพราะถึงอย่างไรมันก็มีความเสี่ยงแล้วก็ พึงระวังพวกผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างว่าเสริมสมรรถภาพทางเพศที่ขายกันตามอินเตอร์เน็ต หลายเจ้ามักแอบผสมไวอากร้าโดยไม่บอกใครที่ใช้ไวอากร้าหรือพวกผลิตภัณฑ์เสริมสมรรถภาพทางเพศรับศึกหนักตื่นมาลองมองไปรอบๆ ตัว มองท้องฟ้า สังเกตดูว่าเห็นแสงสีแปลกๆ รึเปล่า
คุณอาจจะเป็นกรณีหายากก็ได้ ใครจะรู้

logoline