เรื่องของไลน์อัพศิลปินในปีนี้ก็ดูแปลกตาไปจากปีแรกมาโขเพราะเป็นธีม "งานวัดภูเขาทอง"จึงต้องมีไฮไลท์อย่าง พี่ฮาย-อาภาพร นครสวรรค์ ที่จัดเต็มทั้งชุด หางเครื่องและโชว์สุดมันที่สามารถทำให้งานนี้มีกลิ่นอายงานวัดอย่างแท้จริงอีกหนึ่งกลุ่มศิลปินที่ต้องพูดถึงก็คือ "บริษัทฮาไม่จำกัด" ที่ถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช่นักร้องโดยตรงแต่เมื่ออยู่บนเวทีก็สามารถทำให้งานกลมกล่อมได้อย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนวงอินดี้เพื่อชีวิตเลือดใหม่มาแรง อย่าง "ไททศมิตร"ก็จัดเต็มกับโชว์คุณภาพที่ทุกคนในงานถึงกับต้องกรูไปอยู่หน้าเวที ซึ่งพวกเขาทำไว้ดีมากจริงต่อกับวงจบที่เป็นแขกประจำของงานนี้ เพื่อชีวิตรุ่นใหญ่ พี่ปู-พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ขนเพลงฮิตส่งท้ายทำให้ชาวยิปซีไม่มีลุกหนีกลับแน่นอน
พิเศษกว่านั้นปีนี้ยังมีอีกหนึ่งเวที Cat Stage ยกขบวนเหล่าศิลปินอินดี้มาร่วมสร้างความสนุกความมันส์ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
บรรยากาศในงานก็เหมือนได้เดินเล่นท่ามกลางเฟสติวัลดินแดนยิปซีที่มีทั้งของกินและโซนช๊อปปิ้ง ร่วมถึง โซนของผู้ขับขี้มอเตอร์ไซค์ที่เป็นจุดต้นกำเนิดของงานนี้
และอีกอย่างที่ทำให้งานนี้แตกต่างจากงานเฟสติวัลอื่นๆก็ตรงที่การจัดการต่องธรรมชาติ ท่ามกลางขุนเขานั้นดีมากๆ เพราะตัวเฟรมเองอยู่จนถึงจบงานแล้วก็ได้เห็นภาพความประทับใจก็คือในพื้นที่จัดงานไม่มีขยะหลงเหลืออยู่เลยเพราะทางผู้จัดเขาวางกิจกรรมไว้ด้วยการเก็บขยะมาแลกเป็นของรางวัลดีๆเพิ่มความพิเศษของงานด้วยการเพิ่มจุดคัดแยกขยะรีไซเคิล และนำเครื่องกำจัดขยะ Oklin ขนาดใหญ่มาแยกกากขยะอาหารกลายเป็นปุ๋ยคืนสู่ธรรมชาติได้อีกด้วย
เพียงแค่เริ่มจากตัวเรา กลุ่มเราแล้วทำต่อๆกันทุกกลุ่ม กลางเป็นคนหมู่มากทำก็คงไม่มีใครกล้าที่จะลุกไปโดยไม่หยิบขยะติดมือถึงแม้จะไม่มีของรางวัลมาแลกเปลี่ยนแต่มันก็จะกลายเป็นการสำนึกและกฏหมู่ในการอยู่ร่วมกัน เพียงเท่านี้สถานที่คึกคักในตอนกลางคืนก็พร้อมที่จะต้องรับเช้าวันใหม่ที่สดใสแล้วหละ
ปีหน้าเจอกันอีกแน่ "Gypsy carnival 6"
ติดตามเฟรมไปเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่
facebook fanpage : oneday with famframe
youtube: oneday with famframe