โดยคดีนี้เกิดขึ้นหลังมีการเผยแพร่รูป น.ส.ศรีวิภา ขณะถูกจับกุมในคดีฉ้อโกงเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 62 ที่ผ่านมา โดยจับกุมที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 โดย น.ส.ศรีวิภา เรียกร้องค่าเสียหายจากกองปราบปรามและสื่อออนไลน์ที่ยังไม่เอาข่าวออก ตนเรียกค่าเสียหายจากทั้ง 2 แห่ง แห่งละ 10 ล้านบาท รวมค่าเสียหายทั้งหมด 20 ล้านบาท
น.ส.ศรีวิภา เผยว่า หลังตนตกเป็นข่าวถูกจับกุมในคดีเดือนต.ค.62 นั้น พบว่ามีคลิปภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่งจากกองปราบ ที่มาจับกุมตนแล้วเผยแพร่ภาพไปยังสื่อมวลชน ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล การเผยแพร่คลิปกับสำนักข่าว ทางกองปราบปรามมีสิทธิ์อะไร ตนไม่ใช่นักโทษ สุดท้ายคดีถอนฟ้องจบไปในเดือนพ.ย.62 แล้ว
เรื่องนี้ตนเสียหายมาก มีผลกระทบกับเรื่องการงานกับธุรกิจ การถ่ายแบบก็ถูกยกเลิก มีค่าเสียหายเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 27 พ.ย.62 ตนก็เคยไลฟ์สดกินยาฆ่าตัวตาย ตนทำธุรกิจมา 14 ปี ไม่เคยเกิดปัญหาเลย จนมาเจอเรื่องนี้ มันทำใจยาก อยู่ดี ๆ ถูกประจานโดนคนด่า ตนไม่มีคดีฉ้อโกงกับใครอื่น มีแค่คู่กรณีคนเดียว ที่มีข่าวว่ามีคดี 8-9 คดีตามที่ข่าวออกก็ไม่จริง คู่กรณีนั้นก็มีปัญหาส่วนตัวกับตน ที่มีข่าวเรื่องตนออกไปให้นักข่าวนั้นก็เป็นเท็จถึง 90% ในเนื้อหาข่าวมีการลงที่อยู่ด้วยหากมีคนไปทำมิดีมีร้ายกับตนล่ะ
"หลังเกิดเรื่องทางกองปราบปรามเคยโฟนอินมาในรายการที่ตนไปออกว่าให้เข้ามาพบผู้ใหญ่ได้เลย แต่วันนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อมา ตนไม่อยากให้สังคมไทยอยู่กับผู้รักษากฎหมายที่สร้างภาพ ตอนแรกโกรธสื่อมาก แต่พอรู้ความจริงว่าภาพข่าวคลิปมาจากกองปราบปราม จึงติดต่อไปยังสื่อมวลชน ซึ่งจำนวนมากก็ยอมเอาภาพตนออกจากข่าว ยกเว้นสื่อออนไลน์รายหนึ่งที่ยังไม่ยอมเอาภาพคลิปข่าวออก จึงจะฟ้องสื่อดังกล่าวด้วย" น.ส.ศรีวิภา กล่าว
เบื้องต้นตำรวจจะสอบปากคำผู้เสียหายพร้อมกับตรวจสอบข้อมูลกับกองปราบปรามและสื่อออนไลน์รายนั้นมาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป