ดอน ยังเชื่อมั่นในจีน เพราะเคยผ่านวิกฤติโรคซาร์ส มาแล้ว

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการรับมือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ว่า ตนเห็นว่ามาตรการปิดการเข้าออกเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ก็เป็นเรื่องที่เคยทำในสมัยก่อน ตอนที่เกิดโรคซาร์ส ซึ่งการไม่ให้ใครเข้าออกประเทศ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะฉะนั้นมาตรการที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไทยควรให้ความร่วมมือ และความมั่นใจ เพราะเคยทำสำเร็จมาแล้ว และเชื่อว่าครั้งนี้จะสำเร็จอีก แต่คงต้องใช้เวลา 

ส่วนภาพบางภาพที่เห็นว่าเป็นเมืองร้าง มันไม่ใช่ภาพใหม่ พร้อมอธิบายว่า ในช่วงปี 2546 ก็มีสภาพแบบนี้ แม้กระทั่งในกรุงปักกิ่ง ที่เป็นเมืองหลวง ซึ่งหน้าสถานทูตก็ไม่มีคน สำหรับคนไทยในเมืองอู่ฮั่น ขณะนี้ทางการจีนรับปากว่าจะช่วยดูแลอย่างดี ซึ่งสถานทูตก็ได้ประสานเรื่องความต้องการทั้งอาหารการกิน โดยช่วยเสริมนอกเหนือจากสิ่งที่หาได้ในพื้นที่ ซึ่งกลุ่มที่ติดต่อทางโซเชียล ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์วีแชท ก็จะเป็นจุดประสานที่ดีที่สุด โดยแพทย์จากเมืองไทยก็จะเข้าไปอยู่ในวีแชท เพื่อถาม-ตอบด้านสาธารณสุขที่จำเป็นต่อเรื่องสุขอนามัยของคนไทยในอู่ฮั่น

นายดอน ยังยืนยันด้วยว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีประเทศใด สามารถนำเครื่องบินไปรับคนของตัวเองกลับมาได้ โดยยังอยู่ระหว่างการประสานกับทางการจีน ส่วนข่าวที่ออกมาก็คือข่าว พร้อมระบุประเทศใดที่ให้ความร่วมมือกับจีน ก็จะไม่เกิดประเด็นเหล่านี้มากนัก และบางประเทศก็ไม่จำเป็นต้องไปผลักดันเอาคนกลับ เพราะถือว่าให้ความร่วมมือกับจีน เหมือนที่ไทยกำลังทำอยู่ ทำด้วยความเชื่อมั่น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ก็เข้าใจว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลา ตราบใดที่คนไทยปลอดภัย และได้รับการดูแล ก็ถือเป็นเป้าหมายสูงสุด เราไม่ต้องไปแข่งกับใคร แต่เรามีความสนใจ โดยคนไทยต้องปลอดภัย และระหว่างที่ยังไม่ได้กลับก็ต้องไม่มีปัญหาเมื่อถามว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนที่อยู่ในไทย จะส่งกลับอย่างไร / นายดอน กล่าวว่า คนจีนที่อยู่เมืองไทยและต้องการกลับ แต่บังเอิญที่บ้านเขาถูกปิดล้อม เหมือนกรณีอู่ฮั่น เขาก็เข้าใจสถานะดี ซึ่งก็ไม่ได้ไปกดดันว่าต้องผลักดันออกไป หรือผิดกฎหมาย และต้องมาดูเพราะเป็นเหตุเฉพาะกิจ เป็นความจำเป็น โดยได้ติดต่อกับสถานทูตจีนแล้วนายดอน ยังกล่าวอีกว่า หากต้องเดินทางไปรับคนไทยกลับ ก็ไม่มีปัญหา ใช้เวลาบินกว่า 3 ชั่วโมง ไม่ได้ไกล ยืนยันว่ามีความพร้อมจากนั้น นายดอน ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าว ว่า บางคนก็ใส่หน้ากากอนามัย บางคนก็ไม่ใส่ แต่ใส่ก็เป็นประโยชน์ ต้องไม่ลืมว่าเป็นเรื่องที่ดี ขอให้ทำด้วย ป้องกันไว้ดีกว่า