svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ไทยเฝ้าระวังติดไวรัสโคโรน่าอีก136ราย

28 มกราคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ไทยพบผู้ติดไวรัสโคโรน่าสะสม 14 ราย รักษหายกลับบ้านแล้ว 5 ราย อีก 9 รายนอนโรงพยาบาล ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศไทย เฝ้าระวังติดเชื้อ 136 ราย คัดกรองจากสนามบิน 29 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 107 ราย

สถานการณ์ ถึงวันที่ 28 มกราคม 2563 ณ เวลา 08.00 น.


1.พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจากต่างประเทศ 14 ราย (กลับบ้านแล้ว 5 รายอีก 9 รายนอนโรงพยาบาล) ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศไทย


2.มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม2563 ถึง 27 มกราคม 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 136ราย คัดกรองจากสนามบิน 29 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 107 รายอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 55 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลยังคงรับไว้ในห้องแยกโรค 81 ราย


3.สถานการณ์ทั่วโลก ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 27 มกราคม2563 พบผู้ป่วย 2,802 ราย ใน 13 ประเทศ และ 2 เขตปกครองพิเศษ ส่วนประเทศจีน ข้อมูลณ วันที่ 27 มกราคม 2563


พบผู้ป่วย 2,744 ราย เสียชีวิต 80 ราย


4. ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขสถานการณ์จะดีขึ้นด้วยความร่วมมือจากประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง "เช็คก่อนแชร์"ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.phpและ Line@ / เพจเฟซบุ๊ค : รู้กันทันโรค,เพจเฟซบุ๊ค : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

2.สธ.เผยพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโรคปอดอักเสบจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019เพิ่ม 6 ราย เป็นนักท่องเที่ยวจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ (Hubei)


นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่ากระทรวงสาธารณสุขยืนยันพบผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย (หญิง 2 ราย ชาย 4 ราย)มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งหมดเป็นผู้ป่วยชาวจีนจากเมือง


อู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ โดย 5 รายเป็นครอบครัวเดียวกัน ส่วนอีก 1รายเดินทางมาในกรุ๊ปเดียวกัน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 2 ครั้ง ได้ผลบวกรอเข้าคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณาอีกครั้งในบ่ายวันนี้ทำให้ปัจจุบันไทยพบผู้ติดเชื้อทั้งหมดรวม 14 ราย ขณะนี้ทุกรายอาการดีขึ้นกลับบ้านได้แล้ว 5 ราย ยังอยู่โรงพยาบาล 9 ราย

นายแพทย์สุขุม กล่าวต่อว่าในวันนี้ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มข้นและยกระดับระบบการคัดกรอง


ผู้เดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง โดยผู้โดยสารทุกคนทุกเที่ยวบิน ที่เดินทางมาจากจีน จะผ่านการตรวจคัดกรองด้วยเครื่องวัดไข้อัตโนมัติเทอร์โมสแกนทุกรายบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองนอกจากนี้ยังเพิ่มจุดคัดกรองบริเวณประตูทางเชื่อมก่อนเข้าอาคารผู้โดยสารกรณีผู้โดยสารที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด อย่างไรก็ตามขอให้ช่วยกันเฝ้าระวังและดูแลตัวเอง ให้ความร่วมมือกับทางการหากพบนักท่องเที่ยวเป็นหวัดควรให้คำแนะนำไปพบแพทย์ ประชาชน นักท่องเที่ยวนักศึกษาหรือผู้เดินทางมาจากประเทศจีนมีข้อสงสัยโทรปรึกษาได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง


ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขชี้แจงสถานการณ์ตามข้อเท็จจริงโดยไม่ปิดบังข้อมูลใดๆตามข้อสั่งการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหากพบผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อฯ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค จะไม่ปิดบังข้อมูลจะแจ้งให้ทราบทุกราย และให้ยึดหลักการ"ชีวิตและสุขภาพของประชาชนสำคัญที่สุด"พร้อมขอให้มั่นใจว่าการดำเนินงานของรัฐบาลอยู่ในระดับมาตรฐานสากลการคัดกรองได้ผลดี การรักษาได้ผลดี สถานการณ์โดยรวมขณะนี้ถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019แม้ยังไม่มียารักษา ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนักวิทยาศาสตร์อยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย ซึ่งไทยได้ติดตามความก้าวหน้าอย่างใกล้ชิดแต่โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยตนเอง ขอให้ทุกคนดูแลร่างกายให้แข็งแรงหลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกันกับผู้ที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ ยึดหลัก"กินร้อน ช้อนกลางล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย"


ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้พัฒนาห้องปฏิบัติการทั่วประเทศให้สามารถตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ด้วยเทคนิคReal-Time RT-PCR (IRT.PCR)มีความแม่นยำ เชื่อถือได้รู้ผลภายใน 3 ชั่วโมงเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนรักษา ช่วยให้มีความพร้อมรับมือสถานการณ์ระบาดของโรคอ่านต่อได้ที่https://www3.dmsc.moph.go.th/post-view/666


ในส่วนกรมอนามัยขอแจ้งเตือนประชาชนที่ต้องอยู่ในกลุ่มคนหนาแน่น หรือพื้นที่เสี่ยงต่อการสัมผัสโรคขอให้หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หากไม่สะดวกให้ใช้เจลล้างมือทั้งก่อนกินอาหารและหลังจากเข้าส้วม พร้อมสวมหน้ากากอนามัยป้องกันลดการสัมผัสและแพร่กระจายของเชื้อโรค อ่านต่อได้ที่https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/news270163/


"ในวันนี้เราได้เชิญตัวแทนนักศึกษาภาคใต้ซึ่งจากกลับจากมณฑลเหอเป่ย (Hebei)ประเทศจีน


มารับมอบอุปกรณ์ป้องกันตนเองซึ่งนักศึกษากลุ่มนี้มีรายงานข่าวในบางสื่อว่า เดินทางมาจากเมืองหูเป่ย์ (Hubei)และมีอาการป่วย กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า นักศึกษาทั้ง 13 คนทุกคนสบายดี ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ไม่พบการติดเชื้อเตรียมกลับบ้านที่ภาคใต้เย็นวันนี้"นายแพทย์สุขุมกล่าว


โดยบ่ายวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันตนเองสุขอนามัยส่วนบุคคล พร้อมแจกเอกสาร หน้ากากอนามัยบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนและจะดำเนินการต่อเนื่องในพื้นที่ที่ประชาชนหนาแน่นทุกวัน เพื่อสร้างความตระหนักไม่ตระหนก เกิดความร่วมมือจากประชาชน

3. ผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรค


- จากการตรวจคัดกรอง 5สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ สะสมตั้งแต่วันที่ 3มกราคม 2563 ถึง วันที่ 25 มกราคม 2563จำนวน 31 เที่ยวบิน จำนวน 21,522 คนและในวันที่ 24-27 มกราคม ได้คัดกรองเที่ยวบินจากกว่างโจวและฉางชุน 29เที่ยวบินผู้เดินทางและลูกเรือได้รับการคัดกรอง3,507 คนทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่ด่านเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง


- นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับแจกคำแนะนำสุขภาพ (health beware card)จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค

4.ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019


สาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศปิดการเดินทางสาธารณะที่เข้าออกเมืองอู่ฮั่นและพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 ทุกช่องทาง และประชาชนควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้


ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นและเมืองที่มีการระบาดตามคำประกาศของทางการจีน


ระหว่างเดินทางในต่างประเทศขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดหรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม แนะนำควรสวมหน้ากากอนามัย


หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วย หรือตายและหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรวมถึงเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี


หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น และปฏิบัติตามคำแนะนำ"กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ"อย่างเคร่งครัด


ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว)เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ


รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ


หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทยภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันทีพร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวมและมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้


หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หรือเว็บไซต์https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.phpและLine@/เพจเฟซบุ๊ค : รู้กันทันโรค เพจเฟซบุ๊ค : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

logoline