ศาล อาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
วันที่ ๒๗ เดือน มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๓
ความ อาญา
ระหว่าง พันตำรวจเอก ดร.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ โจทก์
ระหว่าง พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินตา จำเลย
ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดีนี้เวลา ๙ นาฬิกา
นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาวันนี้ ทนายโจทก์มาศาล
ตรวจคำฟ้องแล้วเห็นว่าโจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗ อันเป็นคดีอาญาที่ฟ้องขอให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.๒๕๕๙ มาตรา ๓ (๑) จึงเป็นคตีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
คำฟ้องโจทก์ได้ระบุรายละเอียดตัวบุคคล เอกสารหรือวัตถุพยาน ที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง และพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดขัดเจนเพียงพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีพอที่จะดำเนินกระบวนพิจาณาต่อไปได้ แต่ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาคำฟ้องและมีคำสั่งเกี่ยวกับคดี เห็นควรมีหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้จัดส่งข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ดังนี้
(๑) กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อกำหนดหรือคำสั่ง ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ ผกก. และ รอง ผบก. ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง (ถ้าหากมี)
(๒) การดำเนินการโยกย้ายโจทก์ (พันตำรวจอกไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์)ในวาระประจำปี ๒๕๖๒ จากตำแหน่ง รองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ไปดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.อก.ภ.๙ ซึ่งถือเป็นการโยกย้ายข้ามภาคมีสเหตุมาจากเรื่องใด และเป็นการดำเนินการดามกฎหมาย กฎ ระเบียบข้อกำหนดหรือคำสั่ง ใดหรือไม่ อย่างไร
(๓) ให้จัดส่งสำเนาคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ ๖๗๔/๒๕๖๒ ลงวันที่ ๒๗พฤศจิกายน ๒๕๖๐ พร้อมบัญชีแนบท้ายคำสั่ง (ฉบับสมบูรณ์ ) ต่อศาล
โดยให้จัดส่งข้อมูลและเอกสารดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางภายใน ๓๐ วัน นับแต่ได้รับหนังสือแจ้ง
นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๓ เวลา ๙ นาฬิกา
อนุญาตให้คู่ความคัดถ่ายรายงานกระบวนพิจารณาโดยพิมพ์จกคอมพิวเตอร์และไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนเอกสารที่ยื่นต่อศาลในวันนี้อนุญาตให้คัดถ่ายได้ โดยเสียค่าใช้จ่ายตามระเบียบ