เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกว่า 40 %ของผู้โดยสารที่ใช้บริการ ใส่หน้ากากอนามัยมิดชิด สะท้อนให้เห็นความตื่นตัวของนักท่องเที่ยว และผู้โดยสารภายในท่าอากาศยาน ที่ป้องกันโรคระบาด ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019
โดยไฟท์บินจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ถูกยกเลิกไปจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 การยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าวอาจส่งผลให้มีผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ก่อนหน้าที่ทางการจีนประกาศปิดสนามบิน ไม่สามารถเดินทางกลับไปยังเมืองอู่ฮั่นได้
แหล่งข่าวภายในท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ ว่าปัจจุบันยังไม่มีการตกพบการตกค้างของนักท่องเที่ยวจีนภายในสนามบิน แต่อย่างใดโดยหลักการคือการ ระบายผู้โดยสารให้กลับประเทศให้เร็วที่สุดโดยประสานกับสายการบินหากไม่สามารถบินลงในเมืองเป้าหมายเดิมได้ ก็ให้เปลี่ยนเส้นทางไปลงเมืองอื่นใกล้เคียง แล้วใช้โดยสารสาธารณะภายในประเทศเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา
โดยเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ที่อาจตกค้าง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจึงได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและให้บริการผู้โดยสารระหว่างวันที่ 25 มกราคมถึง 9 กุมภาพันธ์ที่ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารเพื่อคอยให้ความช่วยเหลือ ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านนายธีระ บัวศรี ประธานกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพฯ กล่าวว่าการช่วยเหลือดูแลผู้โดยสารตกค้างที่กรุงเทพฯ ที่สนามบินสุวรรณภูมิจากกรณีของสายการบินประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปยังเมืองอู่ฮั่นนั้น ได้มีการยกเว้นการเรียกเก็บค่าปรับหรือค่าภาระอื่นๆที่เกิดจากการยกเลิกเที่ยวบิน และผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนเส้นทาง ไปยังสนามบินใกล้เคียงกับเมืองอู่ฮั่นได้จนกระทั่งถึงขอเงินคืนตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสายการบินนั้น
รวมทั้ง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกัน เฝ้าระวังและคัดกรอง ผู้โดยสารของแต่ละสายการบิน เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เช่น การสวมหน้ากากอนามัย และการสวมถุงมือ คอยสังเกตอาการผู้โดยสาร การจัดเตรียมอากาศยานที่ฆ่าเชื้อโรค การทำความสะอาดภายในอากาศยาน เฝ้าระวังสุขอนามัยของพนักงานผู้ให้บริการ มาตรการรับส่งขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ มาตรการด้านโภชนาการ เป็นต้น