svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ไทย-เมียนมา ทำแนวกันไฟ 2 แผ่นดิน

25 มกราคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ไทย-เมียนมาร่วมใจ! กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประสานความร่วมมือไทย-เมียนมา ทำแนวกันไฟ 2 แผ่นดิน ร่วมกิจกรรมนักปั่นอาสาดับไฟป่า และทำแนวกันไฟ

เมื่อวันที่ 24 ม.ค.63 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ฝึกซ้อมระดมพลดับไฟป่าและจัดทำแนวกันไฟสองแผ่นดิน (ไทย - เมียนมา) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 พร้อมด้วยผู้แทนจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ นายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่15(เชียงราย) เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมงาน

ไทย-เมียนมา ทำแนวกันไฟ 2 แผ่นดิน



นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. กล่าวว่า "โครงการที่จัดขึ้นนี้เป็นการสร้างความรับรู้ความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องการป้องกันไฟป่าและหมอกควัน สร้างความตระหนัก และความร่วมมือในการแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเป็นการรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำไปพัฒนาการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพิ่มทักษะความชำนาญในการควบคุมไฟป่าอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างการปฏิบัติงานและบูรณาการร่วมกัน

สำหรับนักปั่นอาสาตรวจหาไฟป่านั้น เปรียบเสมือนเป็นแนวหน้าในการตรวจหาไฟป่าเนื่องจากการสร้างเครือข่ายกระจายอยู่ทุกอำเภอ เมื่อชาวบ้านปั่นจักรยานผ่านไปพบเจอไฟป่าหรือการเผาป่า กลุ่มควันไฟตามพื้นที่ชนบท หรือตามป่าเขาในพื้นที่ต่าง ๆ สามารถแจ้งเหตุ ให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์ ไม่ให้ไฟป่าลุกลามขยายพื้นที่ทำความเสียหายเป็นวงกว้าง จึงเหมาะสมกับตำแหน่งแนวหน้าในการช่วยระงับเหตุไฟป่า นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างสุขภาพของประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย" นายวราวุธ กล่าว

ไทย-เมียนมา ทำแนวกันไฟ 2 แผ่นดิน



โครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ฝึกซ้อมระดมพลดับไฟป่าและจัดทำแนวกันไฟสองแผ่นดิน (ไทย - เมียนมา) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 แบ่งเป็น 2 กิจกรรมใหญ่ คือ กิจกรรมนักปั่นอาสาตรวจหาไฟป่า ไทย-เมียนมา รณรงค์ป้องกันไฟป่าและหมอกควัน 2 แผ่นดิน ณ บริเวณสถานีขนส่งห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย เป็นการปล่อยขบวนรถจักรยานนักปั่นอาสาตรวจหาไฟป่า ปั่นไปตามเส้นทางเริ่มต้นจากสถานีขนส่งห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ไปตามเส้นทางขึ้นพระธาตุดอยตุง ผ่านจุดชมวิวดอยตุง (กิโลเมตรที่ 12) ไปจนถึงสามแยกกองรักษาการดอยตุง และกลับมาที่สถานีขนส่งห้วยไคร้ระยะทาง 32 กิโลเมตร มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จาก ทส.กับเจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา นักปั่นอาสาตรวจหาไฟป่า นักเรียน นักศึกษา ประชาชน กลุ่มชมรมจักรยาน ประชาชนเครือข่ายแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ในท้องที่ จ.เชียงราย และ จ.พะเยา

อีกกิจกรรม คือ กิจกรรมทำแนวกันไฟสองแผ่นดิน (ไทย-เมียนมา) โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา (รมว.ทส.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม ณ บริเวณสนามกีฬามิตรภาพไทย - เมียนมา(ฐานช้างมูบ) อำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในการร่วมกันทำแนวกันไฟสองแผ่นดิน การเสวนาเครือข่ายการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน การมอบอุปกรณ์ดับไฟป่าให้แก่ผู้แทนเครือข่าย มอบเสบียงอาหารให้แก่กำลังพลดับไฟป่า การสาธิตการซ้อมดับไฟป่า โดยเจ้าหน้าที่สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า

ไทย-เมียนมา ทำแนวกันไฟ 2 แผ่นดิน



ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า "การเกิดไฟป่าเป็นสาเหตุที่สำคัญประการหนึ่งในการลดพื้นที่ป่าไม้ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าไม้และสัตว์ป่า ซึ่งปัญหาไฟป่าเป็นปัญหาที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไข จากข้อมูลการเกิดไฟป่าพบว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากมนุษย์ทั้งสิ้น ทั้งประกอบกิจกรรมการหาของป่า ล่าสัตว์ เผาไร่ฯ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดวิกฤตปัญหาหมอกควันด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ที่ประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควันเป็นประจำทุกปี ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย ทัศนวิสัยในการมองเห็น ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นวงกว้าง ซึ่งทั้งไฟป่าและหมอกควันยังส่งผลกระทบทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับประเทศไทยด้วย"

"กรมอุทยานแห่งชาติฯ มีภารกิจในการคุ้มครองพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ประมาณ 81.47 ล้านไร่ โดยในปีงบประมาณ 2563 ได้รับงบประมาณเพื่อควบคุมไฟป่าในการคุ้มครองพื้นที่อนุรักษ์ จำนวน 26.75 ล้านไร่ และสำหรับพื้นที่ภาคเหนือตอนบน มีพื้นที่ที่มีแนวเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย มีแนวเขตติดต่อกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ยาวประมาณ 130 กิโลเมตร ในพื้นที่อำเภอแม่จัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่สาย ที่เกิดปัญหาไฟป่าและหมอกควันทุกปี ตลอดจนเป็นพื้นที่ความเสี่ยงสูงในการเกิดปัญหาหมอกควัน ทั้งปัจจัยในพื้นที่และประเทศเพื่อนบ้าน" 

" สำหรับความจำเป็นในการจัดกิจกรรมก็เพื่อป้องกันปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติฯได้กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมประสานงานและส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับท้องถิ่นกับประเทศเพื่อนบ้านมาแล้วอย่างต่อเนื่อง และได้รับการความร่วมมือจากประชาชนทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างดี ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการร่วมกันป้องกันไฟป่าและหมอกควัน ตลอดจนการดำเนินงานตามมาตรการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน นโยบายและมาตรการอื่น ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย หากประชาชนพบเห็นไฟป่า การเผาป่า การค้า และล่าสัตว์ป่า การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง"

logoline