ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ต่อการพิจารณาญัตติด่วน เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ศึกษาแนวทาางแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 อย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นญัตติด่วนที่ส.ส.เห็นร่วมกันให้สภาฯ ยกมาพิจารณาทันทีโดยไม่เรียงลำดับตามวาระ ทั้งนี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ฐานะประธานที่ประชุม แจ้งต่อที่ประชุมว่ามีผู้เสนอญัตติดังกล่าวรวม 11 ญัตติจึงให้พิจารณาร่วมกัน ซึ่งไม่มีส.ส.เห็นคัดค้าน ทำให้การเสนอญัตติดังกล่าวเพื่อตั้งกมธ.วิสามัญ เป็นไปอย่างเอกฉันท์
ขณะที่การอภิปรายของ ส.ส. ได้แสดงความเห็นอย่างหลากหลาย และมีประเด็นสำคัญคือ รัฐบาลต้องใช้ความร่วมมือกับหลายภาคส่วน รวมถึงภาคชุมชนเพื่อให้ความร่วมมือ รวมถึงกำหนดให้เป็นมาตรการที่ต้องบูรณาการงานร่วมกันเพื่อคลี่คลายปัญหาอย่างเป็นระบบและทันท่วงที ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องเน้นการให้ข่าวสาร ทั้งการ แจ้งเตือน, แจ้งข่าวสาร ไปยังประชาชนทั่วทุกพื้นที่เมื่อเกิดปัญหาเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ต่อการแก้ปัญหาฝุ่นพิษที่กระทบต่อสุขภาพประชาชน นอกจากนั้นยังมีข้อเสนอให้ตั้งหน่วยงานกลางเพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน เนื่องจากมองว่าการแก้ปัญหาปัจจุบัน พบการแยกส่วน และทำโดยไม่มีอำนาจ เช่น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งหยุดการเรียนการสอนโรงเรียนสังกัดกทม. ทุกแห่ง ทั้งที่บางพื้นที่พบค่าฝุ่นละออง ที่ไม่เกินมาตรฐาน เช่น เขตหนองจอก,เขตมีนบุรี เป็นต้น