svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"สรยุทธ" เข้าคุกโรครุมเร้า เปิดเมนูมื้อแรก

21 มกราคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รับตัว"สรยุทธ" เข้าคุก โรคเพียบไขมันในเลือดสูง-ติ่งเนื้อในลำไส้-ถุงลมโป่งพอง สภาพจิตใจปกติ เมนูมื้อเย็นจำแกงเผ็ดไก่-ผัดผักใส่ไข่ คืนแรกให้นอนแดนแรกรับ กำชับเพื่อนนักโทษชวนคุยปรับสภาพจิตใจ

หลังจาก ศาลฎีกาพิพากษา ยืนตามศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก นางพิชชาภา จำเลย 1 ลดโทษ เพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือ 12 ปี // บริษัทไร่ส้ม จำเลย 2 จากเดิมปรับ 80,000 บาท เหลือ 72,000 บาท นายสรยุทธ์ และ นางสาวมนฑา จำเลย 3-4 จากเดิม 13 ปี 4 เดือน เหลือ 6 ปี 24 เดือน เพราะให้การเป็นประโยชน์ต่อศาล

"สรยุทธ" เข้าคุกโรครุมเร้า เปิดเมนูมื้อแรก

โดยศาลให้เหตุผลว่าจำเลยที่ 3 เป็นสื่อมวลชนอาวุโส แต่กลับใช้โอกาสและช่องโหว่ทางกฎหมายหาประโยชน์ จึงไม่เป็นเหตุอันสมควรที่จะทำให้ลงโทษสถานเบา หรือรอการลงโทษทั้งนี้ นายสรยุทธ มีสีหน้าและอาการเคร่งเครียด โดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวผู้ต้องโทษ ไปที่ฝ่ายควบคุมผู้ต้องขังประจำศาล ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มารับตัวในเวลาต่อไป

ทางด้าน "โก๊ะตี๋ อารามบอย" รุ่นน้องที่สนิทกับสรยุทธเป็นอย่างมาก ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ พร้อมทั้งเผยคำพูดที่รู้สึกเสียใจมากที่สุด

"สรยุทธ" เข้าคุกโรครุมเร้า เปิดเมนูมื้อแรก


"พี่ยุทธเป็นคนที่มีกำลังใจดีมาก นอกจากจะได้กำลังใจจากแกแล้ว แกบอกกับหนูว่า แกอยู่ได้ คำพูดที่เราเสียใจมากที่สุด แกบอกว่า kuแทบจะไม่อยากดูข่าว kuรักในอาชีพนี้ kuจะไม่ทรยศในอาชีพนี้"

"สรยุทธ" เข้าคุกโรครุมเร้า เปิดเมนูมื้อแรก

พร้อมกับ น.ส.พิชญทัฬห์ กล่าวว่า พวกเราให้กำลังใจพี่สรยุทรในการต่อสู้คดีมาโดยตลอด ทุกคนที่ทำงานทั้งที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังก็คอยให้กำลังใจด้วย เรารู้สึกเสียใจและตัวนายสรยุทธก็เสียใจมากเช่นกัน

"สรยุทธ" เข้าคุกโรครุมเร้า เปิดเมนูมื้อแรก

บางครั้งประโยคที่พวกเราได้ยินบ่อยๆ คือ "น้องรู้มั้ย บางทีพี่ไม่อยากจะเปิดทีวีดูเลย เพราะพี่ไม่อยากเห็นรายการที่ตัวเองเคยทำ" ซึ่งนายสรยุทธได้พูดกับตนว่า เมื่อเราต่อสู้ดีที่สุดแล้วก็ต้องเคารพกติกา ในเมื่อเราต่อสู้แล้ว ศาลตัดสินแล้ว เราก็ต้องอยู่ในกติกา และที่นายสรยุทธยืนยันมาตลอด คือ ไม่คิดที่จะหลบหนี เพราะฉะนั้น ในวันนี้นายสรยุทธมาศาล จึงได้แสดงให้เห็นแล้วว่าได้ทำตามที่พูดไว้ ยืนยันว่านายสรยุทธมีกำลังใจดี
 สิ่งที่พี่สรยุทธเจ็บปวดมาตลอด คือ การถูกกล่าวหาว่าไปเบียดบังเวลาของ อสมท พี่สรยุทธ ได้ต่อสู้ว่าในรายการคุย คุ้ย ข่าว มีโฆษณาทั้งหมดอยู่ 10 นาที แบ่งเป็น ไร่ส้ม 5 นาที ส่วน อสมท 5 นาที ไม่ใช่ลักษณะที่ อสมท ขายโฆษณาได้ 2 นาที แล้วไร่ส้มไปเอาเวลาที่เหลืออีก 3 นาทีของ อสมท มาใช้ ซึ่งโฆษณาที่เกินของไร่ส้ม มูลค่า 138 ล้านบาท ขณะที่ของ อสมท ประมาณ 237 ล้านบาท นอกจากนี้ พี่สรยุทธต่อสู้ว่า โฆษณาที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้พยายามปกปิด เพราะเรื่องโฆษณาที่เกินในแต่ละวันนั้นไม่สามารถปกปิดได้ หากมีโฆษณาเกินเพียง 1-2 วัน ก็จะถูกตรวจสอบพบแล้ว"กรณีโฆษณาเกินของบริษัท ไร่ส้ม มีการส่งคิวโฆษณาที่เกินอย่างเปิดเผย และมีการเกินต่อเนื่อง 500 กว่าวัน ดังนั้น พี่สรยุทธ ก็ต่อสู้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะปกปิด หรือผู้บริหารจะไม่ทราบ หรือเจ้าหน้าที่ธุรการเพียงคนเดียวสามารถปกปิดได้ ซึ่งตามกระบวนการขั้นตอนส่งคิวโฆษณาก็จะมีระบบการตรวจสอบอยู่แล้ว ส่วนประเด็นเรื่องเช็ค 6 ฉบับ พี่สรยุทธต่อสู้ว่า เช็คที่สั่งจ่ายแต่ละฉบับมีที่มาที่ไปอย่างไร เป็นค่าใช้จ่ายอะไร ที่พี่สรยุทธชี้แจง คือ จำนวนเงินไม่สัมพันธ์กับจำนวนเวลาโฆษณาที่เกิน และเป็นการจ่ายลักษณะหักภาษี ณ ที่จ่าย ถ้าจะกระทำการทุจริตจริงๆ จะทำแบบนี้ทำไม " น้องไบร์ท กล่าว 

"สรยุทธ" เข้าคุกโรครุมเร้า เปิดเมนูมื้อแรก

นายสรยุทธ์ได้ชี้แจงต่อศาลว่า เป็นการจ่ายค่าช่วยประสานงานด้านการตลาด ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับการปกปิด ที่ผ่านมา พวกเรารู้สึกดีใจที่ทางคณะกรรมาธิการ สนช. เข้าใจว่า คดีไร่ส้มที่เกิดขึ้น เป็นลักษณะของไทม์แชร์ริ่ง หรือแชร์โฆษณากัน อย่างน้อยก็มีหลายคนที่เข้าใจในประเด็นที่พี่สรยุทธพยายามต่อสู้ชี้แจงน.ส.พิชญทัฬห์ กล่าวต่อว่า ในฐานะเพื่อนร่วมกันและคนใกล้ชิด ตนรู้สึกเสียใจ เห็นใจ และเสียดาย เพราะนายสรยุทธ์ เป็นคนตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์ต่ออาชีพของตัวเองและคนดูซึ่งเป็นสิ่งที่นายสรยุทธสอนพวกเรามาโดยตลอดว่า เราต้องรับผิดชอบต่อคนดู โดยนายสรยุทธ์รักอาชีพนี้มาก หากว่าพวกเราจะได้เห็นน้ำตาของนายสรยุทธ์ ก็คือ ทุกครั้งที่นายสรยุทธ์เสียใจที่ต้องหยุดทำงานข่าว เพราะการทำงานเป็นชีวิตของนายสรยุทธ์



ล่าสุด พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้รับตัวนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา จำเลยในความผิดไม่ชำระค่าโฆษณาส่วนเกินให้บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) จำนวน 138 ล้านบาท มาควบคุมตัวที่เรือนจำ โดยได้รับรายงานจากผบ.พิเศษกรุงเทพฯว่า ได้รับตัว นช.สรยุทธผู้ต้องขังจากศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เข้ามาควบคุมตัวตั้งแต่เวลา 13.15 น. 
โดยนช.สรยุทธต้องโทษจำคุกในคดีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตัวเองและผู้อื่นโดยมิชอบ ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่นำตัวนช.สรยุทธมาถึงเรือนจำ ฝ่ายทะเบียนได้ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ พิมพ์มือ ถ่ายรูป และตรวจร่างกาย

"สรยุทธ" เข้าคุกโรครุมเร้า เปิดเมนูมื้อแรก


อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า นช.สรยุทธ อายุ 54 ปี มีโรคประจำตัวประกอบด้วย ไขมันในเลือดสูง มีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ แต่ไม่ใช่เนื้อร้าย ร่วมกับมีเลือดออกในลำไส้ และโรคถุงลงโป่งพอง เบื้องต้นพบว่านช.สรยุทธมีสภาพจิตใจปกติ 
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เลยเข้ามาเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อต้องเข้ามารับโทษจำคุก 6 ปี 24 เดือน ในช่วงแรกจะจัดให้อยู่ในแดนที่หนึ่ง หรือแดนแรกรับนอกในห้องควบคุมที่ 13 พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เวรรักษาการณ์ให้ตรวจตราอย่างต่อเนื่อง และได้จัดให้ผู้ต้องขังช่วยงาน 2 คน ช่วยดูแลนักโทษเข้าใหม่อย่างใกล้ชิด เป็นเพื่อนพูดคุยเพื่อปรับสภาพจิตใจ ให้นักโทษใหม่ปรับตัวเข้ากับสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำ สำหรับอาหารเย็นที่เรือนจำจัดให้นักโทษทั่วไปรวมถึงนช.สรยุทธคือข้าวสวยกับแกงเผ็ดไก่ใส่ผัก และผัดผักใส่ไข่

logoline