svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

การเมืองที่ไหน ๆ ก็สกปรก ไม่เว้นแม้แต่สหรัฐฯ

21 มกราคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อีกไม่นาน การเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ จะเกิดขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่า ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็หมายมั่นปั้้นมือว่า จะกลับมานั่งเป็นผู้นำสหรัฐฯ อีกสมัย แต่ครั้งนี้ อาจจะไม่ง่ายแบบสมัยแรก เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ นั้นเริ่มจะมีแผลให้เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในขณะที่คนสหรัฐฯ ส่วนหนึ่ง ก็ไม่ต้องการเห็นสหรัฐฯ ตกเป็นเป้านิ่ง จากศัตรู จากการทำนโยบายสร้างอิทธิพลในพื้นที่ต่าง ๆ ของสหรัฐฯ จนกลายเป็นว่าปัจจุบันสหรัฐฯ มีศัตรูรอบตัว

นอกจากนั้นแล้วพิษเศรษฐกิจ ก็เป็นปัญหาใหญ่ที่ทางนายโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังประสบอยู่ขณะนี้ และ ที่สำคัญ เขามีคู่แข่งสำคัญคือ นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นอดีตรองประธานาธิบดีสมัยบารัค โอบามา
โจ ไบเดน เกิดที่เมืองสแครนตัน ในรัฐเพนซิลเวเนีย และอาศัยอยู่ที่เมืองนี้จนอายุได้ 10 ขวบจึงได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองเดลาแวร์จนกระทั่งปัจจุบัน เขาเคยทำงานเป็นทนายความตั้งแต่ปี 2512 และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะลูกขุนเมื่อปี 2513
เข้ามารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาครั้งแรกในปี 2515 โดยการเลือกตั้ง ทำให้กลายเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ที่ได้เข้ามารับตำแหน่งในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐอเมริกา จากนั้น เขาก็ชนะการเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2521, 2527, 2533, 2539 และ 2545 นับว่าเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่ครองตำแหน่งมานานที่สุดเป็นอันดับ 6 ในประวัติศาสตร์อีกด้วย

การเมืองที่ไหน ๆ ก็สกปรก ไม่เว้นแม้แต่สหรัฐฯ


โจ ไบเดน เป็นสมาชิกของคณะกรรมการความสัมพันธ์ต่างประเทศมายาวนานจนปัจจุบันได้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานของคณะกรรมการชุดนี้ ศิลปะการเจรจาของเขาเคยนำมาซึ่งความช่วยเหลือทางการทหารของสหรัฐฯและการเข้าแทรกแซงในสงครามบอสเนีย
เขาออกเสียงสนับสนุนนโยบายการแก้ปัญหาสงครามอิรักแต่ต่อมาได้ประกาศจุดยืนว่าอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ตรงจุดนี้

นอกจากนั้น เขายังได้ดำรงตำแหน่งประธานของคณะกรรมการศาลยุติธรรมสำหรับสมาชิกวุฒิสภาอีกด้วย โดยมีส่วนในเรื่องของยาเสพติด อาชญากรรม การป้องกันภัย และสิทธิพลเมือง และยังเป็นแกนนำในการเสนอกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาชญากรรมการใช้ความรุนแรงและการบีบบังคับ และกฎหมายว่าด้วยการคุกคามสตรี
โจ ไบเดน เคยลงสมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปี 2531 และ 2551 แต่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งสองครั้ง แต่ในครั้งที่ บารัก โอบามา ผู้สมัครที่ได้ตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตในครั้งนี้ได้ตัดสินใจเลือกเขา เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเข้าชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี และได้รับเลือกตั้งให้เป็นรองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา
ดังนั้นต้องบอกว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ต้องเจอคู่แข่งที่หินพอสมควร ในขณะที่เขาต้องเผชิญ กับการถอดถอนจากสภาฯ
18 ธันวาคม 2562 ทางด้าน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้มีการลงมติ อนุมัติต่อ 2 ญัตติในการถอดถอน ประธานาธิบดีโดนนัลด์ ทรัมป์ 2 ญัตติที่ว่าคือ
1. การใช้อำนาจในทางมิชอบ
2. ขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส

การเมืองที่ไหน ๆ ก็สกปรก ไม่เว้นแม้แต่สหรัฐฯ


นายโดนัลด์ ทรัมป์ จึงได้กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 3 ที่ถูกสภาผู้แทนฯ ลงมติถอดถอนอย่างเป็นทางการ และจะเผชิญกับการไต่สวนในวุฒิสภาเป็นลำดับต่อไป
ขณะที่ทางด้านพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มรอดพ้นจากการถูกถอดถอนในวุฒิสภา
ขณะที่ทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาระบุว่า ข้อกล่าวหาจากสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรที่ระบุว่า ตัวเขาใช้อำนาจในทางมิชอบ ไม่ใช่ความผิดที่สามารถถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่งได้แต่อย่างใด ในขณะที่ข้อกล่าวหาขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส เป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย ไม่มีมูลความจริง เป็นการนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่อันตรายต่อฝ่ายตรงกันข้าม

การเมืองที่ไหน ๆ ก็สกปรก ไม่เว้นแม้แต่สหรัฐฯ

ทางด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯได้เริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนนายโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม 2562 หลังจากมีรายงานว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ
ซึ่งทางด้านนายโจ ไบเดน เป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต และถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมองกันว่าหากเขาประสบความสำเร็จในการสกัดโจไบเดน ออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัยนั่นเอง
ดังนั้นสรุปความได้ว่า การเมือง ไม่ว่าประเทศไหน สุดท้าย ก็มีวิธีการสกปรก เพื่อเอาชนะคู่แข่งให้เห็นกันอยู่แบบนี้ แม้แต่ประเทศที่ได้ชื่อว่าประชาธิปไตย แบบสหรัฐฯ ก็ไม่พ้นวังวนการเมืองสกปรกเช่นกัน
สถาพร เกื้อสกุล 21-1-2563

logoline