svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส เจ็บกว่าใครใน "Megxit"

20 มกราคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สื่ออังกฤษเผย เจ้าฟ้าชายชาร์ลส มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ ทรงโทมนัสอย่างยิ่งจากกรณีMegxit ที่นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานระหว่างพระองค์และพระโอรสทั้งสอง โดยจะเห็นได้จากการที่ทรงไปอยู่ในสถานที่ที่ "ปลีกวิเวก"

เจ้าฟ้าชายชาร์ลสทรงปลีกวิเวกไปประทับที่เบิร์คฮอลล์ ในสก็อตแลนด์ เพื่อให้ห่างไกลจาก"Megxit" ศูนย์กลางเรื่องดราม่าที่พระราชวงศ์อังกฤษกำลังเผชิญ เมื่อเจ้าชายแฮร์รี่ทรงตัดสินพระทัยแน่วแน่ ที่จะไปตั้งรกรากที่แคนาดากับพระชายาเมแกน และสถานที่แห่งนี้ มักจะถูกใช้ในยามที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลสทรงเผชิญวิกฤต หรือมีความโทมนัสอย่างใหญ่หลวง เช่น เมื่อครั้งการสิ้นพระชนม์ของควีนมัม พระมเหสีในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ซึ่งเป็นพระอัยยิกาของพระองค์ เมื่อปี 2545 และข่าวการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานาโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่กรุงปารีส เมื่อปี 2540 แต่ทั้งสองครั้ง ทรงมีเจ้าชายแฮร์รี่อยู่เคียงข้างและคอยสร้างพระอารมณ์ขันให้บิดา

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส เจ็บกว่าใครใน "Megxit"

ทุกครั้งที่เกิดความสูญเสียและร้าวร้านใจ สายสัมพันธ์พ่อ-ลูก จะกระชับแน่นเสมอไม่ว่าจะเผชิญเรื่องราวหนักหนาสาหัสเพียงใด เช่น สมัยที่เจ้าชายแฮร์รี่ทรงเข้าไปพัวพันกับยาเสพติดขณะเป็นวัยรุ่น / ท่องสถานบันเทิงยามราตรี / มีภาพเปลือยหลุดที่ลาส เวกัส หรือความบาดหมางกับเจ้าชายวิลเลียม
คนสนิทของเจ้าฟ้าชายชาร์ล บอกว่า เหตุที่ "Megxit" ทำให้ทรง "เป็นทุกข์" แสนสาหัส ก็เพราะทรงเชื่อว่า ไม่มีใครที่จะต้อนรับว่าที่ "พระสุนิสา" มากกว่าพระองค์อีกแล้ว ตอนที่เจ้าชายแฮร์รี่ทูลแผนจัดพิธีเสกสมรสที่โบสถ์เซนต์ จอร์จ ท่ามกลางเสียงติติงว่าเมแกนเคยแต่งงานมาก่อนนั้น พระองค์ทรงช่วยโน้มน้าวให้สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ทรงพระราชทานอนุญาต ในขณะที่พระองค์ไม่เคยทำสำเร็จในการขออภิเษกสมรสกับคามิลลา ที่เคยผ่านการสมรสและหย่ามาแล้ว ที่โบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์นี้

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อโธมัส มาร์เคิล บิดาของเมแกนไม่สามารถมาร่วมพิธีได้ พระองค์ก็ทรงทำตามคำขอของเจ้าชายแฮร์รี่ในการพาเจ้าสาวเข้าโบสถ์ // สนับสนุนให้ย้ายไปตำหนักฟร็อกมอร์และออกค่าใช้จ่ายให้หลายหมื่นปอนด์ ทรงอนุญาตให้แยกจากวังเคนซิงตัน สถานที่ประทับของเจ้าชายวิลเลียมกับพระชายาเคท หลังทรงทราบว่ามีเรื่องระหองระแหงกัน
พระสหาย บอกว่า การที่เจ้าหน้าที่แฮร์รี่ทรงทำเหมือนยังได้รับอิสระเสรีภาพไม่พอ และตัดสินพระทัยย้ายไปตั้งรกรากที่แผ่นดินอื่น ทำให้เจ้าฟ้าชาร์ลสทรงโทมนัส เพราะทรงรู้สึกว่า มันเป็น "อีกความวุ่นวายที่หน้าประตู" ... หายนะแรกเกิดจาก "แม่ของลูก" ตอนนี้เป็นเรื่อง "ลูกของแม่" และที่สำคัญ ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่กับบิดา ถูกมองว่า อบอุ่นกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลสกับเจ้าชายวิลเลียม ที่ดูซับซ้อนอย่างยิ่ง
เมื่อ 3 ปีก่อน เจ้าชายแฮร์รี่ตรัสสารภาพว่า การสูญเสียพระมารดาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ มีผลต่อสภาพจิตใจของพระองค์ เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็ยังคงรับมือกับสิ่งที่ทำให้พระมารดาสิ้นพระชนม์ ทั้งยังต้องการความเป็นส่วนตัวทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เรื่องของพระมารดามีอิทธิพลจนต้องรับการปรึกษาทางจิต และการหลบลี้หนีหน้าไปจากสาธารณชน เช่น การไปพบกับยูเซน โบลท์ ที่จาไมกา / เสวยรัมและเต้นรำที่เบลีซ แต่ก็ยังระเบิดอารมณ์ใส่ปาปารัซซี่อย่างน้อย 1 ครั้ง ซึ่งทรงยอมรับว่า ต้องต่อยมวยเพื่อควบคุมความก้าวร้าว เหมือนที่พระมารดาทรงใช้ "kick-boxing" เพื่อคลายเครียดหลังทรงหย่า

ที่ผ่านมา เจ้าฟ้าชายชาร์ลสทรงต้องคอยแก้ปัญหาให้พระโอรส เมื่อทรงรู้สึกโดดเดี่ยวตอนที่เจ้าชายวิลเลียมทรงเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเซนต์ แอนดรูว์ ในสก็อตแลนด์ ขณะที่พระองค์ต้องพยายามเอาชนะใจสาธารณชนให้ยอมรับคามิลลา
ในวันครบรอบ 20 ปี การสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา เมื่อปี 2560 เจ้าชายแฮร์รี่ทรงบันทึกเทปอาลัยพระมารดาร่วมกับเจ้าชายวิลเลียม โดยเอ่ยถึงพระบิดา แต่พระเชษฐาทรงไม่เอ่ยถึง แสดงถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนัก // ก่อนที่เมแกนจะเข้ามา เจ้าชายแฮร์รี่ทรงทำหน้าที่กาวใจให้พระบิดาและพระเชษฐา โดยมีครั้งหนึ่งที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส ทรงบ่นว่า ไม่ค่อยให้เห็นพระนัดดาองค์แรกคือ เจ้าชายจอร์จ ... เจ้าชายแฮร์รี่ก็ทรงขอให้พระเชษฐาเปิดใจรับพระบิดา
ส่วนเรื่องที่ทรงตอบแทนพระโอรสก็คือ การโน้มน้าวให้สมเด็จพระราชินีทรงเห็นด้วยกับความเชื่อของพระองค์ที่ว่า การที่เจ้าชายแฮร์รี่ทรงเสกสมรสกับหญิงอเมริกันเลือดผสมที่ผ่านการหย่า ไม่ใช่แค่สัญญาณถึงการเป็นอังกฤษ "สมัยใหม่" ที่ยอมรับความหลากหลาย แต่ยังบ่งชี้ถึงยุคใหม่ของ "วินด์เซอร์" อีกด้วย จึงเป็นเหตุผลที่ทรงผลักดันให้สมเด็จพระราชินีทรงอนุญาตให้จัดพิธีที่โบสถ์ โดยทรงย้ำว่า "นี่คือวิธีที่ทันสมัยและเราต้องเคลื่้อนไหวไปตามกาลเวลา"

logoline