"เมย์ รัชนก" เฉือน "คาโรลิน่า มาริน" คว้าแชมป์แรกของปีที่อินโดฯ

รอบชิงชนะเลิศ คู่น่าสนใจ อดีตแชมป์ปี 2010 "เมย์" รัชนก อินทนนท์ มือ 5 ของโลก และมือ 4 ของรายการ พบกับ อดีตแชมป์โลก 3 สมัย และแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 1 สมัย คาโรลิน่า มาริน มือ 10 ของโลก จากสเปน โดยสถิติการเจอกัน 10 ครั้ง เมย์ เอาชนะไปได้ 6 ครั้ง แต่ครั้งล่าสุดในศึก "เฟรนช์ โอเพ่น" เมื่อเดือน ต.ค. 2019 มาริน เอาชนะไป 2-1 เกม

ส่วนครั้งนี้ผลปรากฎว่า รัชนก ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที เฉือนชนะ สาวสเปนไปได้ อย่างสุดมันส์ 2-1 เกม 21-19, 11-21, 21-18  คว้าแชมป์แรกในปีนี้ และเป็นสมัยที่ 2 หลังจากเคยทำได้เมื่อปี 2010 พร้อมรับเงินรางวัล 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 900,000 บาท ส่วนรองแชมป์รับเงินรางวัล 15,200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 456,000 บาท

หลังการแข่งขัน รัชนก กล่าวขอบคุณแฟนกีฬาชาวอินโดนีเซียว่า "เตอ-รี-มา กา-ซีฮ์" ซึ่งเป็นภาษาอินโดนีเซีย ที่แปลว่า ขอบคุณ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอขอบคุณแฟนคลับชาวอินโดนีเซียที่เข้ามาให้กำลังใจในสนามในวันนี้ พร้อมกับส่งเสียงเชียร์ตลอดการแข่งขัน

ส่วน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับ เมย์ อีกครั้ง และถือเป็นฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเมย์อีกครั้ง ซึ่งต้องยอมรับว่าเมย์ยังคงมาตรฐานการเล่นได้อย่างดี แต่ถึงอย่างไร การคว้าแชมป์รายการนี้ก็ไม่ใช่เป้าหมายหลักในปีนี้ เพราะแน่นอนว่าเหรียญในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ย่อมมีความสำคัญมากที่สุด เช่นเดียวกับนักกีฬาทุกคน 

ดังนั้น หากเมย์รักษาฟอร์มการเล่นนี้ไว้ได้ ก็จะนับเป็นเรื่องที่ดีมาก ขณะเดียวกันในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ เมย์ ก็จะกลับมาลงแข่งขันรายการ "ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส" ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ซึ่งปีที่แล้วไม่ได้ลงแข่งขัน ก็จะทำให้คะแนนบวกเพิ่มแน่นอน แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือนักแบดมินตันชั้นนำของโลกก็เดินทางมาแข่งขันด้วย จึงนับเป็นโอกาสดี และกำไรของแฟนแบดมินตันไทยที่จะได้ชมการแข่วขันที่สนุก ตื่นเต้น และที่สำคัญก็อยากเชิญชวนชาวไทยทุกคนมาร่วมให้กำลังใจนักแบดมินตันไทยทุกคนในรายการนี้ เพราะทุกเสียงเชียร์ของทุกท่านเปรียบเสมือนแรงผลักดันที่ดีที่จะทำให้นักกีฬาของเรามีแรงฮึดสู้ขึ้นไปอีก

สำหรับการแข่งขัน "ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส" ระดับซูเปอร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 170,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,100,000 บาท จะแข่งขันวันที่ 21-26 ม.ค. ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก