svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

Nation Documentary | อนาคตกัญชา

19 มกราคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ในรอบปี 2562 ที่ผ่านมา การปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดมีความคืบหน้าไปมาก แม้กัญชาจะมีสรรพคุณในการรักษาโรค แต่ก็ยังนับเป็นพืชที่จัดอยู่ใน รายชื่อบัญชียาเสพติด ที่หากมีผู้ใดครอบครอง ก็จะมีความผิดตามกฎหมาย หลังจากที่มีนโยบายปลดล็อคกัญชาเสรีเพื่อใช้ทางการแพทย์ ก็ทำให้มีผู้คนมองเห็นโอกาส ในการทำธุรกิจจากกัญชา ผลประโยชน์หลังการปลดล็อคกัญชา จากพืชยาเสพติดจะตกอยู่ในมือใคร เกษตรกรหรือ กลุ่มนายทุนอีกเช่นเคย



เดินอยู่ในไร่ มองเผินๆ อาจไม่รู้ว่ามีต้นกัญชาปลูก หรือขึ้นปะปนอยู่กับกลุ่มวัชพืชไปด้วย ที่นี่อยู่ไกลหูไกลตามากพอที่จะไม่มีใครเห็น
สำหรับเจ้หน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ปปส. กัญชายังเป็นยาเสพติด แต่สำหรับหญิงชราวัย 77 ปีคนนี้ กัญชา เป็นสิ่งที่มีอยู่ในครัวของเธอ
คุณยายทวี นิลชาติ ลืมไปแล้วว่าเคยซื้อผงชูรสครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เพราะสำหรับเธอ ใส่กัญชาดีกว่าใส่ผงชูรส มากไปกว่านั้น การต้มใบกัญชากิน ทำให้ซีดที่เคยเป็นตุ่มบวมใหญ่อยู่กลางหลังมือ ยุบลงไปภายใน เวลาเพียง 2 เดือน ในละแวกเดียวกัน เราได้พบกับชายชราอีกคน ที่ใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค นี่คือภาพเอ็กซเรย์สมองเมื่อ 3 ปีก่อน ก้อนเนื้อเล็กๆ ที่เห็นอยู่ตรงกลางนั้นคือเนื้องอกในสมองของชายวัย 70 ปี แพทย์ระบุว่าไม่สามารถผ่าตัดได้เพราะเขาอายุมากแล้ว
นอกจากการฉายแสงซึ่งอาจมีผลข้างเคียง มีคนแนะนำให้ใช้น้ำมันกัญชา
ผู้ป่วยที่ทีมข่าวชั่วโมงสืบสวนได้พบเหล่านี้ ใช้กัญชาทางการแพทย์ อย่างผิดกฎหมาย จนกระทั่งรัฐได้เปิดนิรโทษกรรม ให้มีการลงทะเบียนครอบครองกัญชา 90 วัน ครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 มีผู้ลงทะเบียนครอบครองเฉียด 2 หมื่นคน
และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดเพื่อใช้ทางการแพทย์เท่านั้น
ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2562 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอกิต จ.บุรีรัมย์ จังหวัดฐานที่มั่นของพรรคภูมิใจไทย เจ้าของนโยบายปลูกกัญชาบ้านละ 6 คน ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานมหกรรมกัญชาโลก "พันธุ์บุรีรัมย์"
ในห้วงเวลาที่กัญชายังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย งานจัดแสดงต้นกัญชา โรงเรือนเพาะปลูกกัญชา มีการขายผลิตภัณฑ์กัญชาที่อยู่ใต้ดินอย่างเปิดเผยไม่ว่าจะเป็นน้ำมันกัญชา หรือบุหรี่กัญชา มีการให้ความรู้สรรพคุณของกัญชาในการใช้รักษาโรค และวิธีการปลูกจากผู้ชำนาญ
นายเนวิน ชิดชอบ ผู้อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจ ปรากฎตัวในงานนี้ พร้อมกับ บอกว่านโยบายกัญชาเสรี ดีกว่า บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรคหากถึงวันที่กัญชาถูกถอดออกจากบัญชายาเสพติด ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ แม้จะเป็นคนหนึ่งที่ผลักดันการปลดล็อกกัญชา ในฐานะตัวแทนของเกษตรกร ห่วงว่าจะเป็นการเปิดช่องให้ นายทุนหาผลประโยชน์ จากความต้องการใช้กัญชาที่มีสูง ขณะที่เกษตรกรกลับไม่ได้ประโยชน์ จากกัญชาในฐานะพืชเศรษฐกิจหลังจากพรรคภูมิใจไทยเข้าเป็นพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวรีกูล ก็ขอนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เพื่อผลักดันนโยบายกัญชา ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการปลดล็อกให้โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา และวิสาหกิจชุมชน สามารถปลูกกัญชา ได้อย่างถูกกฎหมาย
"วิสาหกิจชุมชนเพลาเพลิน" จ.บุรีรัมย์ ปลูกกัญชาในระบบปิด เจ้าของรีสอร์ทเพลาเพลิน เจ้าของที่ดิน ลงทุนต่อเติมห้อง กว่า 7 แสนบาทเพื่อใช้เป็นโรงเรือนปลูกกัญชาที่ได้มาตรฐาน เพื่อส่งให้กับโรงพยาบาลคูเมือง จ.บุรีรัมย์ ใช้การผลิตเป็นยา
นายอนุทิน เรียกที่นี่ว่า "บุรีรัมย์โมเดล" ในการขยายพื้นที่การปลูกกัญชาทางการแพทย์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไปยังพื้นที่อื่นๆในรูปแบบเดียวกัน
>ปัจจุบัน โรงพยาบาลอภัยภูเบศรอยู่ระหว่างจัดทำฐานข้อมูลราคาใบกัญชาแห้ง แต่หากสอบถามจากตลาดใต้ดิน ชั่วโมงสืบสวน ทราบว่าอยู่ที่ 2,500 บาทต่อขีดใบกัญชาแห้ง ซึ่งนับว่าสูงมาก
ราคากัญชาใต้ดิน ที่พุ่งสูงขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการใช้กัญชามีมาก สวนทางกับการปลูก ที่ยังมีข้อจำกัดทางกฎหมาย
ช่อขวัญ ช่อผกา ซีอีโอ บริษัท เอเลเวทเต็ด เอสเตท จำกัด ที่สนใจในธุรกิจกํญชา ประเมินว่า ในปี 2567กัญชาจะกลายเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย ที่สร้างมูลค่าในตลาดสูงถึง 661 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่การปลูกกัญชาไม่ใช่เรื่องง่าย เธอบอกว่า ธุรกิจกัญชา จำเป็นต้องใช้ลงทุนสูง อาจต้องเป็นทุนใหญ่ที่สายป่านยาวจึงจะได้ผลผลิตที่คุ้มค่า หรือไม่ก็จะต้องมีความเฉพาะตัวอย่างมากล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข กับ กระทรวงยุติธรรม ได้ลงนามใน บันทึกข้อตกลง เพื่อร่วมกันปลดล็อก กัญชา กับ กระท่อม ออกจากพรบ.ยาเสพติด เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562
นายอนุทิน โพสต์เฟสบุ๊คระบุว่า กัญชา และกระท่อม จะที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เป็นรายได้ใหม่ให้คนไทย เป็นสินค้าใหม่ของประเทศ
แต่คำถามก็คือ ใครจะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินจากอุตสาหกรรมธุรกิจกัญชา รวมถึงกระท่อมเหล่านี้ จะเป็นกลุ่มเกษตรกร หรือ กลุ่มนายทุนอีกเช่นเคย
ภายในปี 2553 คงจะได้เห็นความชัดเจนมากขึ้น เกี่ยวกับการปลูกกัญชาในระดับครัวเรือน หลังจากที่มีลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงยุติธรรมไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ที่จะปลดล็อคกัญชาออกจากพืชยาเสพติด เพื่อใช้ทางการแพทย์เท่านั้น
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจมีบางส่วนที่ลักลอบนำกัญชามาใช้ในเชิงสันทนาการ
การควบคุมกัญชาเสรีจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และจะส่งผลกระทบเชิงสังคมต่อไปหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป

logoline