svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"กรณ์" เปิดใจ เส้นทางการเมืองใหม่ รวมพลคนมีของ

18 มกราคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"กรณ์ จาติกวณิช" นักการเมืองอนาคตไกล ที่ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ ผ่านรายการ "คมชัดลึก" ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี 22 ถึงเส้นทางการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง วานนี้

"กรณ์ จาติกวณิช" นักการเมืองอนาคตไกล ที่ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ ผ่านรายการ"คมชัดลึก"ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี 22 ถึงเส้นทางการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองว่า ความตั้งใจจะทำหลายเรื่องให้กับบ้านเมืองในช่วงของการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในหลากหลายมิติ มีเรื่องต้องทำเยอะมาก จึงรู้สึกว่าการออกมาทำข้างนอกพรรคจะทำให้รู้สึกว่าจะนำไปสู่จุดหมายในสิ่งที่อยากทำมากกว่า


"กรณ์" เปิดใจ เส้นทางการเมืองใหม่ รวมพลคนมีของ


ผู้ดำเนินรายการถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาตีกรอบการทำงานมากแค่ไหน"กรณ์"ระบุว่า ที่ผ่านมาถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้โอกาสทำงาน โดยลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งแรกเมื่อปี 2548 ตอนอายุ 39 ปี ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้โอกาส จากนั้นทำงานการเมืองเพียงแค่ 4 ปี พรรคประชาธิปัตย์ให้โอกาสเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในช่วงที่งานท้าทายมากที่สุดในฐานะรัฐมนตรี ก็เป็นโอกาสอีกครั้ง ที่ผ่านมาต้องถือว่าชีวิตทางการเมืองของตัวเอง ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เปิดทางให้ก็คงไม่มีโอกาส


"กรณ์" เปิดใจ เส้นทางการเมืองใหม่ รวมพลคนมีของ


ประชาธิปัตย์ไม่ได้ตกต่ำเหมือนปี 48


ถามอีกว่า ขัดแย้งอะไรกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ปัจจุบันหรือไม่"กรณ์"ตอบทันทีว่า ก็ไม่ได้ขัดแย้ง ส่วนตัวเองทำหน้าที่เป็น ส.ส.ตลอดมา แน่นอนที่สุดจากการเสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรคเพราะคิดอยากที่จะช่วยพรรคเพิ่มเติมจากความเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เห็นเป็นอย่างอื่นก็เป็นสิทธิ์ ไม่ได้ติดใจอะไร อย่างที่ว่ามีเรื่องที่อยากทำและคิดว่าออกมาตอนนี้น่าจะคล่องตัวกว่าในการเดินไปสู่เป้าหมาย ก็ได้ตัดสินใจ


ผู้ดำเนินรายการถามอีกว่า ถ้ามีคนบอกว่าคุณกรณ์คุณเลือกออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเห็นว่าประชาธิปัตย์ไปไม่รอดแล้ว คะแนนนิยมตกต่ำอย่างมาก จนถึงเวลานี้"กรณ์"ตอบว่า อันนี้ตอบง่ายๆ ถ้าย้อนเวลาไปเมื่อปี 2547-2548 ช่วงนั้นพรรคคู่แข่งคือพรรคไทยรักไทย เฟื่องฟูที่สุด จริงๆ ปี 2548 ชนะพรรคประชาธิปัตย์ถล่มทลาย วันที่เดินเข้ามาขอเป็นผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ มีหลายคนทักท้วงด้วยซ้ำไปว่าไปพรรคประชาธิปัตย์ทำไม ทำไมไม่ไปพรรคไทยรักไทย


ทั้งที่คุณทักษิณก็รู้จักเพราะในสมัยทำงานก็ได้พบเจอกับคุณทักษิณ แต่ที่ตัดสินใจมาพรรคประชาธิปัตย์เพราะว่า เคารพในอุดมการณ์ของพรรค ที่สำคัญชอบการแข่งขัน เพราะในทุกวงการผู้ได้ประโยชน์จากการแข่งขันคือประชาชน

"กรณ์" เปิดใจ เส้นทางการเมืองใหม่ รวมพลคนมีของ


ประกาศรวมพลคนมีของตั้งพรรค


"กรณ์"บอกว่า เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วถือว่าเป็นเรื่องความเปลี่ยนแปลง ซึ่งอยู่ในยุคของความเปลี่ยนแปลง โครงสร้างสังคมไทยก็เปลี่ยนแปลง 20 ปีก่อนยังมีเด็กเยอะ คนทำงานเยอะ ผู้สูงอายุไม่เยอะมาก แต่เดี๋ยวนี้สลับกันหมดจากโครงสร้างสังคมเปลี่ยนไป ความต้องการของสังคมก็เปลี่ยน ยังไม่นับเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยน


ดังนั้นในช่วงการเปลี่ยนแปลงคิดว่าเราจะทำทุกอย่างเหมือนเดิมไม่ได้ จะคิดเหมือนเดิมไม่ได้ เพราะจะทำให้คนไทยเสียโอกาส จึงคิดว่าอยากเป็นผู้ขับเคลื่อนคำตอบให้สังคมไทยท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่กระทบชีวิตของเรา


ผู้ดำเนินรายการถามต่อว่า จากวันนี้ไปถึงอนาคตหากประชาธิปัตย์ยังเป็นแบบนี้อยู่ จากใจคนที่เคยเป็นสมาขิกพรรค จะตกต่ำหรือรุ่งเรือง"กรณ์"ระบุว่า ขอไม่พูดถึงอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ดีกว่า เพราะเป็นเรื่องของผู้ที่เป็นสมาชิกอยู่ เป็นเรื่องผู้บริหารพรรคไม่อยากไปล่วงเกินเพราะออกมาแล้ว จะพูดถึงสิ่งที่ผมกระทำดีกว่าจะพูดได้เต็มปาก หากพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ไปวันนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะว่า ไม่ได้มีส่วนร่วมแล้ว ทั้งหมดเคยพูดตอนอยู่ในพรรคแต่สุดท้ายจะทำตามที่เคยพูดไว้หรือไม่ ก็เป็นอำนาจการตัดสินใจของผู้ที่มีอำนาจในพรรค


ผู้ดำเนินการรายการถามถึงอนาคตตั้งเป้าจะกลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่"กรณ์"ตอบทันทีว่า ไม่ตั้งเป้าไว้เลย ยังไม่มีความคิดนั้น วันนี้พูดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพรรคการเมืองแน่นอน แต่ยังไม่ได้นำไปสู่การตั้งพรรค


ผู้ดำเนินรายการถามว่า พรรคใหม่ชื่อว่า"ขับเคลื่อนไทย"หรือไม่"กรณ์"ตอบว่า ไม่ใช่ เพราะขับเคลื่อนไทยเป็นชื่อของกลุ่มนักคิด นักเคลื่อนไหว นักวิชาการกลุ่มหนึ่งที่ทำงานร่วมกันกับผมและคุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นชื่อกลุ่ม แต่ไม่ใช่ชื่อที่นำมาใช้ตั้งพรรค


แต่พรรคนี้จะค่อยๆ ขยายฐานผู้ร่วมขบวนการของเราออกไปสู่วงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ความตั้งใจก็คือต้องการคนมีของ เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมาด้านใดด้านหนึ่ง หรือมีของมีความคิดความตั้งใจจะมาช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศในทางบวก ซึ่งเคยกล่าวไว้ว่า ความจำเป็นที่ต้องปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงมากมายหลายเรื่อง ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นน้อยมาก ก็มองว่าต้องอาศัยผู้ที่รู้จริงเข้ามาทำงานในแต่ละเรื่องที่มีความสำคัญ


"กรณ์" เปิดใจ เส้นทางการเมืองใหม่ รวมพลคนมีของ


"อยากจะรวมตัวกลุ่มคนที่ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทางการเมือง แต่จุดเริ่มต้นอาศัยประสบการณ์ของเราในการวางกรอบความเป็นพรรคการเมืองต้องเป็นอย่างไร เพราะอย่างไรจะหลีกเลี่ยงประเด็นทางการเมืองไม่ได้ แต่ในแง่ของผู้รู้ผู้ขับเคลื่อนผู้เข้ากำหนดนโยบาย และผู้ที่เป็นตัวละครไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมือง และไม่อยากให้เป็นในส่วนใหญ่ แต่อยากให้เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถมีความตั้งใจ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจไทย" กรณ์ กล่าว

"กรณ์" เปิดใจ เส้นทางการเมืองใหม่ รวมพลคนมีของ


จับมือ"ทัศพล แบเลเว็ลด์" ทำงานการเมือง


ผู้ดำเนินรายการถามถึงชื่อ"ทัศพล แบเลเว็ลด์"เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคหรือไม่


"คุณทัศพลทั้งผมและคุณอรรถวิชช์รู้จักมานานกว่า 10 ปี และตลอด 10 ปีก็คุยกันมาตลอด เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในประเทศ ความจริงพยายามผลักดันผมและคุณอรรถวิชช์มาตลอดว่าอยากเห็นการออกมาทำการเมืองแบบใหม่ ออกมาตั้งพรรคการเมืองเถอะ คำตอบสั้นๆ ก็คือคุณทัศพลเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่สนับสนุนทางความคิดให้กับเรามาทำหน้าที่" กรณ์ กล่าว


"จะมีใครอีกหรือไม่ ขอให้ใจเย็นๆ นี่เป็นเพียงแค่วันแรกที่ได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ช่วงที่ผมยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ผมทำหน้าที่เต็มที่ในฐานะ ส.ส. ไม่ได้มีเวลาเตรียมการตั้งพรรค ส่วนการตั้งพรรคผมเชื่อว่ายังมีเวลา เมื่อมีความชัดจนจะรายงานไปยังประชาชน"


"กรณ์" เปิดใจ เส้นทางการเมืองใหม่ รวมพลคนมีของ


ผู้ดำเนินรายการถามไปว่า หากมี ส.ส.แตกจากการยุบพรรคมาเข้าร่วมด้วยจะรับหรือไม่"กรณ์"ตอบทันทีว่า ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ของผมและคุณอรรถวิชช์ที่จะรวมตัว ส.ส.จากพรรคใด แต่ความตั้งใจของเราสองคนคือสร้างพรรคใหม่ที่ใหม่จริงๆ สัดส่วนของผู้สมัครในอนาคตไม่จำเป็นหรือไม่ควรมีอดีต ส.ส.ควรจะมีผู้รู้ผู้ที่มีศักยภาพ และผู้ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจมาช่วยความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศ


"ผมขอถือโอกาสเชิญชวนไม่ว่าใครทำอยู่ในสาขาอาชีพใดก็แล้วแต่ มีความรู้สึกอึดอัดทิศทางของประเทศอยากเข้ามามีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศ ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้ติดต่อมา"


ผู้ดำเนินรายการถามว่า พรรคใหม่ถูกวางไว้ขั้วการเมืองไหน"กรณ์"ระบุว่า พรรคนี้ต้องการพัฒนาประเทศ และทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ จุดเริ่มต้นโดยธรรมชาติผมเองและในฐานะนักการเมืองไม่เคยมีศัตรูกับใคร ความตั้งใจจะเน้นการปฏิบัติ ทำไปแล้วประชาชนได้ประโยชน์ จึงไม่ได้คิดถึงขั้ว เพราะต้องสนับสนุนหัวหน้าพรรคของเราเป็นนายกฯอยู่แล้ว และเชื่อว่าประชาชนก็เอือมระอากับขั้วทั้งหลาย เพราะประชาชนอยากให้นักการเมืองมาให้คำตอบว่าชีวิตเขาจะดีขึ้นอย่างไร


ผู้ดำเนินรายการถามว่า หลายฝ่ายมองว่าเป็นการฟอกตัวของคุณกรณ์ครั้งใหญ่ ล้างคราบพรรคประชาธิปัตย์ที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่"กรณ์"ยืนยันสิ่งใดที่เคยทำมาก็อยู่ในตัวผม ไม่สามารถปฏิเสธในสิ่งที่ทำมาในอดีตได้ จึงคิดว่าไม่มีประโยชน์ถ้าจะฟอกตัว เพราะกรณ์ จาติกวณิช ก็คือกรณ์ จาติกวณิช ที่จะตั้งใจทำประโยชน์ให้บ้านเมือง


ชมคลิป >>เปิดใจที่เเรก ! "กรณ์ จาติกวณิช" สาเหตุลาออก "ประชาธิปัตย์"

ชมคลิป >>เผยหมดเปลือก ! พรรคใหม่ "กรณ์ จาติกวณิช" รวมพลคนมีของ ?

logoline