นายกฯ ขอดูความจำเป็น แจง กมธ.กฎหมาย

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรมีมติ เชิญ พลเอก ประยุทธ์ ในฐานะอดีตหัวหน้า คสช. และอดีตเลขาธิการ คสช. ประกอบด้วย พลเอก อุดมเดช สีตบุตร , พลเอก ธีรชัย นาควานิช และ พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ มาให้ข้อมูลกรณีการดำเนินคดีโดยรัฐ เพื่อกลั่นแกล้งประชาชนผู้เห็นต่างทางการเมืองนับตั้งแต่รัฐประหารปี 2557 ว่า ขอดูก่อนว่าจำเป็นหรือไม่ หากจำเป็นก็จะไป แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ส่งหนังสือหรือส่งคนไปชี้แจง อีกทั้งความจริงน่าจะจบได้แล้ว แต่ก็มีข่าวผ่านในโซเชียลมีเดีย เผยแพร่ข้อมูลว่ามีการบุกรุกอะไรหรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่รู้ เห็นกันหรือยัง ตัวประธานเองนั่นแหละเมื่อถามว่า คณะกรรมาธิการฯ ระบุจะใช้ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา / นายกฯ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ เขาบอกว่าถ้าจำเป็นจะออกคำสั่งเรียกไม่ใช่หรือถามต่อว่า คณะกรรมาธิการฯ ปฏิเสธรับหนังสือชี้แจง และจะทำหนังสือเชิญอีกรอบ / นายกฯ ตอบว่า คราวก่อนตนก็ไม่ได้ไปชี้เเจงตั้ง 4 ครั้ง เดี๋ยวค่อยว่ากัน ตนไม่ได้ท้าทายอะไร แต่บางเรื่องควรจะเป็นเรื่องหรือไม่ จะจบหรือไม่จบ ว่ากันมา ทั้งนี้ สิ่งสำคัญเรื่องงบประมาณ ก็เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็น ต้องถามว่าใครเดือดร้อน ประชาชนและข้าราชการเดือดร้อนใช่หรือไม่ แม้กระทั่งคณะกรรมาธิการฯ เดือนร้อนหรือไม่ มีเงินเดือนจ่ายไหม ที่ว่าจะทุจริตก็ให้ไปตรวจสอบกันอีกที ถ้าพูดเหมารวมเช่นนี้ประชาชนก็ไม่เข้าใจทั้งหมด กลายเป็นว่า ทำงบประมาณมาผิด แต่ตนก็คิดว่าไม่ได้ผิดทั้งนี้ต้องเอางบประมาณที่ได้ทั้งก้อนมาดู แม้กระทั่งโครงการต่างๆ ก็ต้องดูอีกรอบ เวลาทำงบประมาณจริง เมื่อได้งบประมาณมาแล้ว ต้องมาดูอีกว่าจะลงตรงไหน อย่างไร นี่คือความยาก-ง่ายของรัฐบาลที่ทำมา ถ้าทำแบบเดิมก็ง่ายหมด ได้งบประมาณมาก็อนุมัติโครงการ แต่ของรัฐบาลชุดนี้ ถ้าทำไม่ตรงเจตนารมณ์หรือยุทธศาสตร์ตนก็ไม่อนุมัติ และไม่เอาเข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรี นี่คืออำนาจนายกฯ ไม่ใช่เสนอมาแล้วตนจะอนุมัติหมด เพราะหลายอย่างก็ให้กลับเอาไปทบทวนแล้วทำมาใหม่ เพื่อให้ตรงกับนโยบายของเรา ไม่เช่นนั้นก็ใช้เงินฟุ่มเฟือยไม่เกิดประโยชน์ พร้อมกันนี้ยอมรับ การทำงบประมาณล่าช้า ทำให้รัฐบาลทำงานสะดุดแน่นอน เพราะโครงการใหญ่ใช้งบประมาณไม่ได้ ทำได้แต่โครงการขนาดเล็กและขนาดกลางนายกฯ กล่าวต่อว่า ถ้างบประมาณผ่านสภาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ก็เหลือเวลาประมาณ 6 เดือน เกรงว่าจะใช้งบประมาณไม่หมด แต่ก็มีมาตราการเร่งรัดการใช้จ่าย ตรงไหนติดขัดก็แก้ไขให้ดำเนินการได้ และ วันนี้ได้เตรียมแผนงานคู่ขนาน โดยจะอนุมัติโครงการที่มีผลศึกษาและมีความพร้อมแล้ว