จีน เสนอยกระดับพัฒนา AI ในไทยแบบโรงเรียนคู่พัฒนา

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ และสมาชิกวุฒิสภา เข้าพบนาย เจิ้ง ฟูจือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงเพื่อหารือความร่วมมือด้านต่างๆของกระทรวงศึกษาธิการทั้งสองประเทศ

โดยนายณัฏฐพล กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เกิดจากการพบกันของผู้นำทั้งสองประเทศ ซึ่งได้มีการพูดถึงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และการขยายความสัมพันธ์ด้านการศึกษา โดยเฉพราะในเรื่องของ AI ที่รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และจะต้องขอรับความรู้ในเรื่องการนำ AI มาใช้ในการเรียนการสอนจากประเทศจีนที่มีองค์ความรู้ในเรื่องนี้ดีที่สุด แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างไทย-จีน ยังอยู่ในวงที่แคบ ดังนั้นหากจะสามารถขยายความร่วมมือเพื่อให้เห็นผลลัพธ์เชิงสัมฤทธิ์ได้ ทางรัฐบาลไทยต้องขอให้ทางจีนพิจารณาข้อเสนอดังนี้

1.การเพิ่มจำนวนครูอาสาสอนภาษีจีน เพื่อให้นักเรียนไทยทุกระดับได้เรียนภาษาจีนมากขึ้น โดยเพิ่มจากหลักพันคนให้เป็นหมื่นคน ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนในเรื่องของค่าใช้จ่ายของครูอาสาสมัคร ที่พัก รวมถึงสวัสดิการอื่นๆ2.ความร่วมมือด้านการเรียนการสอน AI และ coding โดยทางรัฐบาลไทยจะมีการคัดเลือกครูและนักเรียน และมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของภาษาจีน เพื่อส่งมาเรียนและอบรมที่ประเทศจีน เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากที่สุด3.ความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาที่เกี่ยวข้องกับแผนธุรกิจที่ไทยกำลังวางแผน เช่น การผลิตบุคลากรด้านการซ่อมบำรุงรถไฟความเร็วสูง การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า หุ่นยนต์ไบโอดีเซล ร่วมกับความรู้พื้นฐานภาษาจีน ซึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่มการลงทุนของทั้งสองประเทศ

4.จัดตั้งคณะทำงานทั้ง 2 ฝ่ายในเรื่องของห้องเรียนอัจฉริยะ โดยการขอให้เริ่มจากทางการจีนไปทำงานที่ไทยด้าน นาย เจิ้ง ฟูจือ ได้กล่าวถึงเหตุผลที่รัฐบาลจีนมีนโยบายการนำ AI มาใช้ในด้านการศึกษา เนื่องจากที่ผ่านมาแม้ว่าจีนจะเป็นประเทศที่มี GDP สูงเป็นอันดับ2ของโลก แต่ก็ได้เผชิญกับปัญหาความเหลื่อมล้ำภายในประเทศมาก จึงได้มีการนำเอา AI เข้ามาเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในพื้นที่ห่างไกล

โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันตกของประเทศ และที่ผ่านมาจีนได้มีการปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีแผนพัฒนาการเรียนการสอนที่มุ่งให้มีการศึกษาที่ทันสมัยผ่านเทคโนโลยีส่วนข้อเสนอของทางการไทยนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการของจีน ได้เห็นชอบในเรื่องของการเพิ่มจำนวนครูอาสาสอนภาษาจีนในไทย ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือตามที่สามารถทำได้ โดยให้ทางไทยได้เจรจากับสถาบันขงจือ สำนักงานใหญ่ ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยมีสถาบันขงจืออยู่ 16 แห่ง มีห้องเรียนมากกว่า 20 ห้องเรียน และมีโรงเรียนที่เข้าร่วมการสอนภาษาจีนมากกว่า 200 แห่งซึ่งถือว่าจะมีบทบาทในการอบรมครูคนไทยให้สอนภาษาจีนได้ ในขณะที่เรื่องของ AI นั้นจีนได้เสนอความร่วมมือเป็น 2 ระดับ คือ ระดับโรงเรียน ที่จะเป็นการจับคู่กันระหว่างโรงเรียนไทยกับจีน เป็นแบบโรงเรียนคู่พัฒนา และระดับประเทศ ผ่านทางโครงการอบรมครู นอกจากนี้ในส่วนของความร่วมมือเกี่ยวกับด้านอาชีวศึกษานั้น ในปีที่ผ่านมาจีนได้เปิด Workshop ลูปัน ที่วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุทธยา โดยมีช่างฝีมือที่ดีที่สุดในจีนด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า IOT และยังมีการเปิดหลักสูตร AIอย่างไรก็ตามปัจจุบันมีนักเรียนไทยที่มาเรียนในจีนประมาณ 28,000 คน ในจำนวนนี้ได้รับทุนรัฐบาลจีน 1,932 คน ซึ่งหากไทยมีแผนความต้องการกำลังคนที่ชัดเจน ทางการจีนก็ยินดีให้ความร่วมมือ