อาทิ เชียงราย น่าน เพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์ เป็นการช่วยเหลือเร่งด่วน เป็น 2 ช่วง ตั้งแต่เดือนมกราคม - เมษายน ที่แล้งมาก หลังจากนั้น เดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม ที่ฝนจะตกน้อย
นางสาวรัชดา กล่าวอีกว่า ดังนั้นรูปแบบการทำงานจะตอบสนอง 2 ช่วงเวลา และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้มีการสั่งการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน มีการแบ่งความรับผิดชอบหลัก คือ กลุ่มที่ 1 การให้ข้อมูลสถานการณ์น้ำการพยากรณ์ กลุ่มที่ 2 คือผู้บริหารจัดการน้ำและกลุ่มที่ 3 คือหน่วยงานปฏิบัติการแก้ไขปัญหา หาแหล่งน้ำแหล่งน้ำสำรอง ขุดบ่อน้ำบาดาลและแหล่งน้ำสำรองผลิตน้ำประปาและพื้นที่นำร่องเก็บน้ำโครงการแก้มลิงชั่วคราว เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ
รวมทั้งควบคุมน้ำในทางการเกษตร ขอความร่วมมือเกษตรกรไม่ให้ปิดกั้นลำน้ำหรือสูบนำเข้าพื้นที่เพาะปลูก ประสานกรมฝนหลวงในพื้นที่ทำฝนหลวงตามสภาพภูมิอากาศตามความเหมาะสม รวมทั้งเข้าระวังควบคุมไม่ให้นำน้ำเสียลงพื้นที่น้ำ เพราะจะต้องมีการนำน้ำดีไล่น้ำเสีย
นอกจากนี้ ต้องดูแลการป้องกันการพังทลายของตลิ่งและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนประหยัดน้ำ โดยงบประมาณกลางที่รัฐบาลอนุมัติจำนวน 3 พันล้านบาทและงบของแต่ละกระทรวงรวมแล้ว 6 พันกว่าล้านบาท จะนำไปดำเนินการช่วยเหลือกรณีน้ำแล้ง ประกอบด้วย 3,378 โครงการ ควบคุมการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล จัดหาแหล่งน้ำบนผิวดินและดูแลการซ่อมแซมระบบประปา ,ส่วนการพื้นฟูแหล่งน้ำ 421 โครงการและการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่กลางและเล็กครอบคลุมพื้นที่ 1 ถึง 2 ล้านไร่ ซึ่งน่าจะเพิ่มปริมาณน้ำได้ 942 ล้านลบ.ม. ทั้งนี้ นายกฯ ยังย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลดูแลอย่างเต็มที่และกำชับประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำเพื่อเป็นประโยชน์ การวางแผนการทำเกษตร