svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

"ภัยแล้ง" ดันราคาสินค้าเกษตรพุ่ง

13 มกราคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พาณิชย์คาดภัยแล้งทำราคาสินค้าเกษตรบางรายการขยับขึ้น พร้อมย้ำราคาน้ำมันพุ่งจากศึกอิหร่าน-สหรัฐ และขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ยังไม่กระทบราคาสินค้า กรมการค้าภายในประเมินสถานการณ์ภัยแล้งปี 2563 คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรที่จะลดลงส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น ทั้งข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว ข้าวเปลือกเจ้า มะนาว ผักสด เนื้อหมู

วิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุ จากปัญหาภัยแล้งในขณะนี้ คาดว่าจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรหลายชนิดของไทยในปีนี้ได้รับความเสียหาย ปริมาณผลผลิตลดลง และราคาปรับตัวสูงขึ้น (ใส่กราฟฟิก) โดยเฉพาะข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว และข้าวเปลือกเจ้า และคาดว่าผลผลิตข้าวเปลือกนาปรังจะเสียหายเกือบครึ่งหนึ่ง หรือจะมีผลผลิตเพียง 3.5-4 ล้านตันข้าวเปลือก จากปกติที่ประมาณ 8 ล้านตันข้าวเปลือก
นอกจากนี้ ราคาผักสดก็จะปรับตัวสูงขึ้น จากผลผลิตที่คาดว่าจะเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะผักใบ รวมถึงมะนาว ที่คาดว่าปีนี้ราคาน่าจะสูงกว่าที่ผ่านมา ดังนั้น ผู้ที่ใช้มะนาวจำนวนมาก เช่น ร้านอาหาร ภัตตาคาร ควรซื้อมะนาวในช่วงนี้ที่ยังราคาต่ำมาทำเป็นน้ำมะนาวแช่แข็งเก็บไว้ เพื่อเตรียมไว้ใช่ในช่วงหน้าแล้ง ส่วนเนื้อหมู คาดว่าราคาจะสูงขึ้นเช่นกัน จากสภาพอากาศร้อน ทำให้หมูโตช้า ซึ่งอาจมีมาตรการจำกัดการส่งออก เพื่อให้มีเนื้อหมูบริโภคในประเทศอย่างเพียงพอ และราคาไม่สูงมากจนเกินไป
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ หลังจากมีความกังวลจากเหตุความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน เชื่อว่าจะเป็นผลเพียงระยะสั้นเท่านั้น และไม่เกิดผลบานปลายเป็นสงคราม ผู้ประกอบการจะใช้เหตุผลของราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นข้ออ้างในการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นไม่ได้ และหากมีการฉวยโอกาส จะมีการเอาผิดตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ส่วนปัจจัยเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับเพิ่มขึ้นกระทบต้นทุนการผลิตสินค้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

'ค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น อาจมีผลต่อสินค้าอุตสาหกรรมบางรายการ โดยกรมการค้าภายใน จะจับตาการปรับราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สะท้อนกับต้นทุนที่มีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างแท้จริง'
การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 6 บาท 9 จังหวัด และ 5 บาททั่วประเทศ ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 63 ไม่กระทบต้นทุนการผลิต เพราะผู้ผลิตส่วนใหญ่ใช้เครื่องจักรไม่ส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก แต่หากผู้ผลิตจะขอปรับราคาต้องมีการพิจารณาต้นทุนว่าสอดคล้องกับราคาที่จะปรับหรือไม่ โดยยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีผู้ผลิตรายใดขอปรับราคา
ส่วนการดูแลสินค้าควบคุมขณะนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า ก่อนจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) พิจารณาว่าดำเนินการเพิ่มหรือถอดสินค้าจากควบคุมต่อไป

logoline