"นิพนธ์​" สั่งประปาหาแหล่งน้ำดิบใหม่​รับมือภัยแล้ง​ ยันดูแลปชช.เท่าเทียม​ทุกกลุ่ม

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 63 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำเค็มรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระเจ้า ที่สถานีสูบน้ำดิบผลิตน้ำประปาสำแล จังหวัดปทุมธานี พร้อมกับนายปริญญา ยมะสมิต ผู้ว่าการการประปานครหลวง และ นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน โดยพบว่าค่าความเค็มของแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงสถานีสำแล ขึ้นๆลงๆตามจังหวะน้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งเมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมามีค่าความเค็มอยู่ที่ 0.51 กรัมต่อลิตร ซึ่งยังไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานในการผลิตน้ำประปา ซึ่งตั้งเกณฑ์ไว้ที่ 0.6 กรัมต่อลิตร เป็นผลมาจากการผลักแผนผลักดันน้ำเค็ม ของกรมชลประทานใน 3 ช่องทาง ทำให้วันนี้แม้น้ำทะเลจะหนุนสูง แต่ค่าความเค็มของน้ำประปาก็ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน ไปมาก

นายนิพนธ์ ได้วอนขอเกษตรกรที่อยู่บริเวณรอบเส้นทางลำเลียงน้ำ ให้หยุดสูบน้ำเพื่อทำการเกษตรเพื่อจะได้มีน้ำเหลือไว้สำหรับผลักดันน้ำเค็ม และผลิตน้ำประปา ปัจจุบันยังไม่มีมาตรการเข้มงวด ที่ถึงกับต้องนำทหารตำรวจไปเฝ้า เพียงแต่ขอความร่วมมือและทำความเข้าใจกับเกษตรกร เท่านั้น

ทั้งนี้ จากกระแสสังคมที่มองว่ารัฐมุ่งเอาใจใส่แต่ชาวกรุงลุ่มภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพฯนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลดูแลประชาชนทุกคน ทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ซึ่งเห็นว่าในพื้นที่ต้นน้ำยังไม่รับความเดือดร้อน

สำหรับสถานการณ์น้ำประปาทั่วประเทศ นายนิพนธ์ได้กำชับให้การประปาส่วนภูมิภาค เพิ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ไปสำรวจแหล่งน้ำดิบอื่นๆ ที่จะสามารถนำมาผลิตน้ำประปาได้ เช่นน้ำในบ่อดินต่างๆ หรือจากแอ่งน้ำต่างๆ ดึงมาใช้ในช่วงระยะเวลานี้ เพิ่มเติม

ทั้งนี้ ยอมรับว่าภัยแล้งปี 2563 มีความรุนแรงมากกว่าปี 2558 ที่ผ่านมา แต่ด้วยแผนการจัดการน้ำที่วางไว้แล้วจะมีน้ำเพียงพอไปจนถึงสิ้นฤดูแล้งอีก 6 เดือน ข้างหน้า