วิกฤตฝุ่น​ PM​ 2.5​ ปี​ 2562​ ปัญหาสิ่งแวดล้อม​ใหญ่​ ที่จะยืดเยื้อไปทุกปี​

เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนสามารถจะตรวจเช็ค วัดระดับฝุ่น PM 2.5 จากการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ซึ่งจะมีระดับสีของการเตือน ตัดแต่ปลอดภัยไปจนถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงทำให้ผู้คนตื่นตัวกับเรื่องฝุ่น PM 2.5 มากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา

กรุงเทพฯเมืองหลวงของประเทศไทย ขึ้นอันดับเมืองที่มีมลพิษ ฝุ่น PM 2.5 สูงเป็นอันดับต้นๆของโลกอยู่ครั้งหลายในช่วงปี 2562 อันเนื่องมาจากลมสงบนิ่งและความกดอากาศ ขณะที่การจราจรคับคั่งในกรุงเทพฯเป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้เกิดมลพิษ รถที่ใช้น้ำมันดีเซล ยังเป็น เกรดน้ำมันที่ต่ำกว่าในประเทศที่พัฒนาแล้ว ทำให้มลพิษสูงมากกว่า เกิดขึ้นได้ง่ายกว่า

นอกจากกรุงเทพฯแล้วในต่างจังหวัดก็กำลังเผชิญกับฝุ่น PM 2.5 เช่นเดียวกันแต่ไม่ใช่เกิดจากการขนส่งและจราจร

ที่น่าเป็นห่วงคือ การปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม การเผาเชื้อเพลิงจากโรงไฟฟ้า การทำเหมืองถ่านหิน หรือแม้กระทั่งการเผาป่า ไฟป่า และการทำพืชเชิงเดี่ยวที่ต้องมีการเผา เช่นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อย เป็นต้น โดยเฉพาะจังหวัดโซนภาคเหนือ

เมื่อประมาณกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แฟนเพจ Facebook ของ WWF Thailand ชวนประชาชนติดแท็ก #SaveClassicBlue เมื่อไหร่กันที่ท้องฟ้าไม่ใช่สีฟ้าอีกต่อไป ?

โดยระบุว่า เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา Pantone ได้ประกาศสีประจำปี 2020 ซึ่งก็คือสี "Classic Blue" อย่างไรก็ตาม สีนี้ไม่ได้ทำให้เรา "นึกถึง" สีนำ้เงินอันสวยสดแต่อย่างใด แต่กลับทำให้เรา "หวนหา" สีฟ้าให้กลับมาอีกครั้งเมื่อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

WWF-ฮังการี ได้ปล่อยแคมเปญ #SaveClassicBlue พร้อมกับโปสเตอร์แผ่นยักษ์สีเทาที่เลียนแบบท้องฟ้าในปัจจุบัน โดยหลายทศวรรษที่ผ่านมานี้ ได้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกสู่ชั้นบรรยากาศเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดฝุ่นพิษ หรือ PM 2.5 และผลกระทบมหาศาลที่จะตามมาในอนาคตอันใกล้

ความพิเศษของโปสเตอร์นี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงโปสเตอร์รณรงค์เพียงอย่างเดียว แต่ #SaveClassicBlue สามารถดูดซับคาร์บอนและช่วยลดมลพิษในอากาศเพื่อนำ "Classic Blue" กลับมายังท้องฟ้าของเราได้อีกด้วย

"วชิรวิทย์รายวัน" เป็นคนหนึ่งที่ชอบถ่ายรูปท้องฟ้าสีน้ำเงิน แบบไร้ก้อนเมฆ ในวันที่ฝุ่นควันปกคลุมเรามองขึ้นไปบนฟ้าแทบมองไม่เห็นสีน้ำเงิน มากกว่าทัศนียภาพที่ไม่สดใสแล้ว สุขภาพของเราก็แย่ลงตามไปด้วย ในช่วงปีที่ผ่านมานับไม่ถ้วนเลยที่มีอาการเจ็บคอ เนื่องด้วยโรคทางเดินหายใจ จากการสูดฝุ่นควันเข้าไป เชื่อว่าหลายคนก็เป็นแบบผมเช่นเดียวกัน 

จะทำอย่างไรที่จะเรียกคืนอากาศที่ดี ที่บริสุทธิ์กลับมา

จะทำอย่างไรที่จะทำให้ท้องฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้ง คงอยู่ที่เราทุกคนจะช่วยบอกกล่าว อธิบายให้เห็นความสำคัญ ลดการใข้ทรัพยากร และรัฐบาลจะต้อง มีนโยบาย ที่ควบคุมมลพิษ เหล่าโดยรีบด่วน จริงจัง 

คงไม่มีใครตอบได้ว่า ในปี 2563 ท้องฟ้าเหนือบ้านของเรา จะยังคงสดใสอยู่หรือไม่ แต่ที่ทำได้คือเราต้องช่วยกัน ลดมลพิษด้วยตัวเราเอง

#วชิรวิทย์ #วชิรวิทย์รายวัน #Vajiravit #VajiravitDaily #Nation #NationTV22 #SaveClassicBlue #WWFThailand #TogetherPossible