ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2562 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้ประสานไปยัง กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) และกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.) ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบและพิสูจน์ทราบ ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายดังกล่าวแล้ว
พันตำรวจเอก กล่าวต่ออีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการตรวจสอบว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร สำหรับการโพสต์ภาพขายยาเสพติดนั้น หากตรวจสอบพบว่าเป็นความผิดจริงจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดทันที แต่ยังไม่เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากยังไม่มีการบิดเบือนข้อมูลในระบบคอมพิเตอร์ ซึ่งการโพสต์ในกรณีดังกล่าว เป็นความผิดฐาน "โฆษณายาเสพติดให้โทษ" ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 48 มีโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากทำอย่างต่อเนื่อง มีโทษปรับวันละไม่เกิน 5,000 บาท หรือไม่เกิน 2 เท่าของค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการโฆษณาตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืน นอกจากนี้ หากมีการซื้อขายยาเสพติดเกิดขึ้นตามที่โพสต์ ผู้โพสต์จะมีความผิดฐาน "จำหน่ายยาเสพติดให้โทษ" ส่วนผู้ซื้อ จะมีความผิดฐาน "ครอบครองยาเสพติดให้โทษ" และหากส่งไปยังผู้ซื้อในต่างประเทศก็จะมีความผิดฐาน "ส่งออกยาเสพติดให้โทษ"
สำหรับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ตร. ได้ตั้งชุดปฏิบัติการเพื่อเฝ้าระวังปัญหาอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินการสืบสวน สอบสวน ตรวจสอบชื่อและที่อยู่ของเจ้าของเว็บไซต์หรือตัวผู้โพสต์ภาพหรือข้อความ เพื่อติดตาม จับกุมมาดำเนินคดี รวมถึงการสืบสวนหาข่าวจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พร้อมกันนี้ ขอแจ้งเตือนประชาชน ครอบครัว สถานศึกษา ให้สอดส่อง ดูแล เด็กและเยาวชน ให้โพสต์ข้อความ หรือใช้สื่อสังคมออนไลน์ไปในทางที่ถูกต้อง สร้างสรรค์ ถึงแม้จะไม่มีพฤติการณ์เที่ยวเตร่ คบเพื่อนที่มีพฤติการณ์ไม่น่าไว้ใจ หากแต่หมกมุ่นกับโซเชียลมีเดีย ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้