ในที่เกิดเหตุพบ ชายไม่ใส่เสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินแถบเหลือง ในมือถือ สากกะเบือ เดินอยู่กลางถนน อยู่ในอาการเมาสุรา คลุ้มคลั่ง พยายามจะทุบรถที่สัญจรไปมา แล้วยังเอาถังขยะพลาสติกสีน้ำเงินใบใหญ่ลากเอามาไว้กลางถนน ซึ่งมีรถจยย. ฮอนด้า รุ่นเทน่า สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พลิกคว่ำอยู่บนถนน ซึ่งเป็นรถจยย. ของชายคนดังกล่าว ที่ขับขี่มา ทำให้ชาวบ้านอยู่บริเวณแถวนั้น พากันตกใจหวาดกลัวกันไปหมด กลัวว่าจะได้รับอันตราย
.
.
.
ต่อมาดาบตำรวจ พีระวุฒิ วะโรหะ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจ191 ได้เข้าไปพูดคุย บอกให้วางสากกะเบือลง แล้วเข้าไปควบคุมตัวให้นั่งลง ทราบชื่อคือ นายณัฐวุฒิ สรรพการ อายุ29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 หมู่7 ตำบลหนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งยอมรับว่าตนเองเมาเหล้า ได้ขี่รถจยย.ตามหาเมียรัก แต่ไม่เจอ จึงได้หาทางระบายเพราะเครียดมาก เนื่องจากเมียหนีไปเมื่อเช้านี้ แล้วควบคุมตัวมาโรงพัก เพื่อทำการระงับสติอารมณ์
ดาบตำรวจ พีระวุฒิ วะโรหะ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้ง มีชายเมาเหล้า เอาสากกะเบือ เดินจะทุบรถของชาวบ้าน จึงได้รถจยย. ตรวจหา จนมาพบตัว ได้เข้าไปพูดเกลี้ยกล่อม ให้วางสากกะเบือลง ก่อนที่ตำรวจ จะเข้าไปควบคุมตัวไว้ได้ ซึ่งเขาบอกว่าสากกะเบือ เป็นของตนเองนำมาจากบ้าน แต่ยังไม่ได้ทุบรถคันไหนสักคันเลย แค่เดินดูว่าภรรยาที่หนีมา ได้นั่งรถคันไหนมา เท่านั้นเอง โดยรถคันไหนถ้าได้รับความเสียหายให้มาแจ้งความที่สภ.เมืองอุดรธานี
.
.
.
จากการสอบสวน นายณัฐวุฒิ สรรพการ ให้การรับสารภาพว่า ตนทำงานรับจ้างยกของขึ้นท้ายบรรทุกสิบล้อ ร้านค้าขนส่ง แห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรฯ โดยตนไปเช่าห้องพักอยู่กับแฟนสาว ที่คบหาอยู่กินด้วยกัน เป็นผัวเมีย ได้ประมาณ เกือบ1 ปี ในตำบลบ้านจั่น ซึ่งเมื่อคืนนี้ตนเมาเหล้ากลับมาห้องพักแล้วอาละวาด แต่จำไม่ได้ทำอะไรลงไปบ้าง พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า เมียรักได้หอบเสื้อผ้าหนี จึงได้ไปกินเหล้ากับเพื่อนต่อ ที่บ้านพักของตนเอง บ้านหนองใส ตำบลหนองนาคำ เพื่อทำการปรับทุกข์กับเพื่อนที่เมียหนีไป
หลังจากนั้นตนเมา จึงได้ขี่จยย. พร้อมกับเอาสากกะเบือมาด้วย ทำการตามหาเมียรัก ในบขส. แต่ก็ไม่พบตัว ทำให้เกิดอาการเครียดมาก แล้วหาทางระบาย ซึ่งก็ยังไม่ได้ทำร้ายใคร และยังไม่ได้ทุบรถคันไหนสักคันเลย ยอมรับว่าตนเองเมาทำให้ขาดสติ ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา เมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย แล้วนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว ภูมิภาค จ.อุดรธานี
.
.