อาจมีรถคันใดคันหนึ่ง ที่การกลับบ้านครั้งนี้คือการกลับภูมิลำเนาอย่างถาวร ด้านหนึ่งอาจเป็นความรู้สึกที่ดีเพราะกลับบ้านไปใข้ชีวิตอย่างเดิม จะมีต้นทุนน้อยกว่าในนิคมอุตสาหกรรม ในเมืองใหญ่ แต่มันก็มีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย ที่เพิ่งพารายได้จากการทำเกษตรกรรม หรือหางานทำในต่างจังหวัด
เศรษฐกิจที่ชะลอตัว โรงงานหลายแห่งปิดกิจการ บางแห่งลดเงินเดือน เนื่องจากลดกำลังการผลิต ตัดโอที รายได้ครัวเรือนเริ่มลดลง เมื่อคำนวณรายรับ-รายจ่ายดูแล้ว การอยู่ในเมืองอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากกว่ารายรับ .. การกลับบ้านจึงเป็นทางเลือก?
"วชิรวิทย์รายวัน" ได้รับมอบหมายให้มารายงานบรรยากาศการจราจรบนถนน 304 มันเป็นการรายงานบรรยากาศส่งท้ายปีเหมือนอย่างทุกๆปี เส้นทางกลับบ้านบนถนนสาย 304 เป็นบริบทของกลุ่มคนภาคอีสานที่มาทำงานในพื้นที่ภาคตะวันออก ส่วนใหญ่จะเป็นนิคมอุตสาหกรรมแถวชลบุรี ระยอง พื้นที่ EEC ที่คนอีสานย้ายถิ่นมาทำงานที่นี่เป็นจำนวนมาก จึงไม่แปลกใจเลยที่แต่ละปีจะมีปริมาณรถหนาแน่นบนถนนเส้นนี้
ปริมาณรถหนาแน่นเป็นสภาพจราจรที่เหมือนกันทุกปี ที่ต่างออกไปนั่นคือความรู้สึกของผู้คน ที่ได้ไปพูดคุยด้วย ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "เศรษฐกิจไม่ดี และต้องรัดเข็มขัดประหยัดเงิน"
ในปีก่อนๆการเฉลิมฉลอง แต่ละบ้านอาจทุ่มเงินจำนวนมากไปเพื่อการพักผ่อนการ ดื่มสังสรรค์ มีเงินทองเหลือเฟือที่จะได้เสพความสุขร่วมกัน ในช่วงเทศกาลและบรรยากาศเช่นนี้ แต่ปีนี้อาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะมีงบประมาณจำกัด
ในทางกลับกันการกลับบ้าน คือการกลับไปเอาทรัพยากรต่างๆที่บ้านกลับมาใช้ดำรงชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ ที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด ดังที่ได้เห็นการแบกข้าวสาร ข้าวเหนียว กลับมา เป็นต้น
"กลับบ้าน" เป็นคำที่อบอุ่น แต่ "กลับบ้าน" ในชีวิตจริงของมนุษย์เงินเดือน และแรงงานลูกจ้างต่างๆ คือภาระ ค่าใช้จ่าย
ภาระของครอบครัวที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งก็หนักหนาสาหัสเอาการอยู่ด้วยเหมือนกัน
หลายคนอาจเชื่อเรื่องโชคชะตามีขึ้นมีลง แต่ในความเป็นพลเมือง รัฐสวัสดิการและการบริหารประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ผล เป็นสิ่งที่พึ่งหวังมากกว่า
ไม่แปลกหากจะมีประชาชนบอกเบื่อนายกฯ เป็นความเบื่อที่เกิดจากปัญหาปากท้องที่ซบเซาชะลอตัว ได้แต่ภาวนาให้ปีหน้าดีขึ้น
#วชิรวิทย์ #วชิรวิทย์รายวัน #Vajiravit #VajiravitDaily #Nation #NationTV22