ส่ง​ตัวฝากขัง​ "เบญจา​ หลุยเจริญ" และพวก นอนคุก

โดยเมื่อเวลา 16.45  น.ผู้ต้องโทษทั้ง 5ราย ในความผิดฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 หลังจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ลดโทษให้ จำเลยที่1-4  เหลือโทษ  1ใน3 ของคำตัดสินศาลอุทธรณ์จาก3ปี เหลือจำคุก2ปี ไม่รอลงอาญา ได้แก่ นางเบญจา หลุยเจริญ อายุ  66 ปี อดีต รมช.คลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ อดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร ,และ พวก คดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยื่นฟ้อง จำเลยที่ 1-5 ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 เอื้อประโยชน์ในห้นายพานทองแท้ นางสาวพิณทองทา ไม่ต้องจ่ายภาษีจากการขายหุ้น มีกำไรส่วนต่างจากการขายหุ้น 2คน รวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท
หลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เรือนจำพิเศษ คุมตัวขึ้นรถของเรือนจำ เพื่อไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ถนนงามวงศ์วาน  แยกเป็นชาย คือ นายกริช วิปุลานุสาสน์ อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร   ขึ้นรถเรือนพิเศษกรุงเทพ ส่วนอีก4ราย คือนางเบญจา และ ข้าราชการกรมสรรพการอีก2ราย และ ที่ปรึกษาด้านบัญชีของนายพานทองแท้ ถูกนำตัวขึ้นทัณฑสถานผู้ต้องขังหญิง ท่ามกลางญาตและิคนใกล้ชิด  ที่ต่างยืนโบกมือลา เช่นเดียวผู้ต้องขังที่โบกมือให้กับญาติ  โดยบรรยากาศหน้าฝ่ายควบคุมผู้ต้องขังประจำศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ญาติและเพื่อนของผู้ต้องขังราว30-40คน สับเปลี่ยนกันเข้าเยี่ยม นำอาหารมาให้ พูดคุยปลอบใจกับผู้ต้องทั้ง5 โดยเฉพาะสามี และ ลูกชายของนางเบญจาหลุยเจริญ ที่คอยปลอบใจใกล้ชิดเช่นเดียวกับญาติของน.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ที่ญาติมีความเป็นห่วง และพยามที่จะขอผ่อนผันโทษ โดยญาติบอกว่า  น.ส.ปราณี อายุมาก และมีโรคประจำตัวหลายโรค แต่ตามกฎของกรมราชทัณฑ์จะต้องรับโทษ2ใน3ก่อน ถึงจะยื่นขอพิจารณาได้  
จากการพูดคุยกับญาตของผู้ต้องขัง เพื่อสอบถามว่า ผู้ต้องขังได้ฝากฝังหรือฝากอะไรเป็นพิเศษ หรือ กังวลหรือไม่ โดยญาติของนางเบญจา บอกว่า นางเบญจา ไม่กังวลและจะต้องพยามปรับตัวให้ได้  ฝากขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ให้กำลังใจ