ที่จริงแล้ว NORAD ไม่ใช่แค่หน่วยงานสำหรับติดตามซานต้า แต่ NORAD ย่อมาจาก North American Aerospace Defense Command ซึ่งก็คือ กองบัญชาการป้องกันอากาศยานอเมริกาเหนือ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสหรัฐและแคนาดา มีหน้าที่ส่งคำเตือนภัยด้านการบินและการเดินเรือ รวมถึงการตรวจสอบและป้องกันการโจมตีจากทั้งขีปนาวุธหรืออากาศยานอื่นๆ
แล้ว NORAD มาเกี่ยวข้องอะไรกับซานตาได้ยังไง เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2498 เมื่อเมื่อหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งมีการลงโฆษณาเบอร์โทรที่เด็กๆจะสามารถโทรมาคุยกับซานต้าคลอสได้ แต่ดันใส่เบอร์ผิด เด็กๆนับล้านคนที่ต้องการโทรหาซานต้า ก็กระหน่ำโทรไปติดที่ศูนย์บัญชาการของ NORAD แทน ทำให้ทหารที่เข้าเวรวันนั้น ต้องรับสายและสวมรอยเป็นซานตา ตอบคำถามที่เด็กอยากรู้มากที่สุดคือ ตอนนี้ ซานตาอยู่ที่ไหนแล้ว แม้จะเป็นเรื่องวุ่นๆที่เกิดจากความเข้าใจผิด แต่การรับสายของเด็กๆในวันคริสต์มาสก็กลายเป็นธรรมเนียมของ NORAD มานานถึง 64 ปี
มาดูอีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการติดตามการเดินทางของซานต้า เมื่อมีคนตั้งคำถามว่าถ้าหากซานต้าต้องเดินทางส่งของขวัญให้กับเด็กๆทั่วโลกภายในคืนวันคริสต์มาส ซานต้าจะต้องเดินทางเร็วขนาดไหน
สมมติว่าซานต้าต้องส่งของขวัญให้กับเด็กๆราว 200 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 10% ของจำนวนเด็กทั้งหมดทั่วโลก ซานต้าก็จะต้องเดินทางไปที่บ้านของเด็กๆเหล่านั้นประมาณ 75 ล้านหลัง คิดแล้วเป็นระยะทางราว 122 ล้านไมล์ ถ้าหากต้องส่งของขวัญทั้งหมดภายใน 24 ชม. ซานต้าจะต้องเดินทางด้วยความเร็วกว่า 5,083,000 ไมล์/ชม. เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ถ้าเราเดินทางด้วยเครื่องบินจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงเศษๆ แต่ซานต้าจะต้องใช้ความเร็วในการเดินทางไปกลับกรุงเทพ-เชียงใหม่เกือบ 200 เที่ยวภายใน 1 นาที ถึงจะส่งของขวัญให้เด็กๆได้ทัน ซึ่งจากข้อมูลตรงนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็บอกว่าเป็นไปได้ยาก เพราะแม้แต่เครื่องบินรบที่เร็วที่สุดในโลกตอนนี้ยังทำไม่ได้
ถึงแม้จะฟังดูเหลือเชื่อ แต่ซานตาคลอสก็ยังคงเป็นขวัญใจของเด็กๆทั่วโลก และสำหรับชาวไทยเราแม้จะไม่มีความเชื่อในเรื่องซานตาคลอสมากนัก แต่เทศกาลคริสต์มาสก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ออกไปท่องเที่ยว ถ่ายรูปกับแสงไฟประดับบนต้นคริสมาสต์ แล้วก็ใช้เวลาร่วมกันภายในครอบครัว // Merry Christmas ค่ะ