โดยจุดแรกนายกรัฐมนตรีและคณะรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูและพัฒนาคูคลองโดยการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐและชุมชน พร้อมพบปะประชาชนประมาณ 10,000 คน และร่วมปลูกต้นมะม่วงพันธุ์เขียวเสวยและปลูกหญ้าแฝกกับประชาชนด้วย ที่ คลองเทา บ้านหนองแหน
จากนั้น เดินทางไปยังไร่กุดจอก (ไร่อ้อย) อ.ภูเขียว เพื่อพบปะประชาชนและตรวจเยี่ยมการตัดอ้อย สางใบอ้อย และเก็บใบอ้อย ด้วยวิธีการทำไร่อ้อยสมัยใหม่ (Modern Farm) ซึ่งเป็นนวัตกรรมการบริหารจัดการไร่อ้อยอย่างยั่งยืนจากองค์ความรู้ที่ได้มีการนำมาประยุกต์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของประเทศไทย เสริมประสิทธิภาพในการทำไร่อ้อยและลดการเผาอ้อยและลดค่า PM2.5
ขณะที่ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านภูดิน (มิตรผลอุปภัมภ์) ซึ่งเป็นโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School) เยี่ยมชมการเรียนการสอนลักษณะการเรียนรู้จากการปฏิบัติ (Active Learning) เยี่ยมชมนิทรรศการพัฒนาทักษะอาชีพ การทำน้ำอ้อยคั้นสด การจับจีบผ้า และการทำมาลัยมะกรูดใบเตย เยี่ยมชมการสาธิตการบังคับหุ่นยนต์ (Robotics) โดยเด็กพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทักษะการเขียนโปรแกรม (Coding) เยี่ยมชมแปลงเพาะชำอ้อยของโรงเรียนบ้านภูดิน (มิตรผลอุปภัมภ์) ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเย็นวันเดียวกัน
โดยโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา หรือ Partnership School ภายใต้การดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้เข้าไปร่วมพัฒนาโรงเรียน พัฒนาศูนย์การเรียนรู้ Learning Center เพื่อวางรากฐานการศึกษาแก่ลูกหลานชาวไร่เกษตรกรในพื้นที่รวมถึงลูกหลานคนในชุมชน ต่อยอดโครงการโรงเรียนประชารัฐ ให้เยาวชนไทยทุกคน ทุกที่ มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาตามนโยบายของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายกฯ และคณะเดินทางมาถึงท่าอากาศยานขอนแก่น มีส.ส.ขอนแก่น ของพรรคพลังประชารัฐ รอให้การต้อนรับทั้งนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสมศักดิ์ คุณเงิน ที่เพิ่งชนะเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต7 ขอนแก่น
โดยนายกฯ กล่าวว่า ขอบคุณที่สนับสนุนนายกฯ เราเป็นรัฐบาลเพื่อคนทุกคน