ราชกิจจาฯ เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ให้ไว้ณ วันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่แขวงคลองสามประเวศแขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ตำบลราชาเทวะ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลีจังหวัดสมุทรปราการ ตำบลบางเตย ตำบลวังตะเคียน ตำบลท่าไข่ ตำบลบางขวัญ ตำบลบ้านใหม่ตำบลบางไผ่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ตำบลบ้านสวน ตำบลหนองข้างคอกตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมืองชลบุรี ตำบลบางพระ ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา ตำบลนาเกลือตำบลหนองปรือ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง ตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่

ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และตำบลสำนักท้อน ตำบลพลา อำเภอบ้านฉางจังหวัดระยอง เพื่อสร้างทางรถไฟ เครื่องประกอบทางรถไฟ ทาง และสิ่งจำเป็นอื่นตามโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา ๘ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์พ.ศ. ๒๕๖๒ และมาตรา ๓๗ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๐ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้มาตรา๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า"พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในพื้นที่บางส่วนในท้องที่เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอเมืองชลบุรี อำเภอศรีราชา อำเภอบางละมุงอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เพื่อดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน พ.ศ. ๒๕๖๒"
มาตรา๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา๓ เขตที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการสร้างทางรถไฟ เครื่องประกอบทางรถไฟ ทาง และสิ่งจำเป็นอื่นตามโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน มีดังต่อไปนี้
(๑) ในท้องที่แขวงคลองสามประเวศ แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานครและตำบลราชาเทวะ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มีส่วนแคบที่สุดหนึ่งร้อยเมตร และส่วนกว้างที่สุดสองร้อยสามสิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข ๑/๑๑(๒) ในท้องที่ตำบลบางเตย ตำบลวังตะเคียน ตำบลท่าไข่ ตำบลบางขวัญ ตำบลบ้านใหม่และตำบลบางไผ่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา มีส่วนแคบที่สุดหนึ่งร้อยห้าสิบเมตรและส่วนกว้างที่สุดเจ็ดร้อยสี่สิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข ๒/๑๑

(๓) ในท้องที่ตำบลบ้านสวน และตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรีมีส่วนแคบที่สุดเก้าสิบเมตร และส่วนกว้างที่สุดหนึ่งร้อยหกสิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข ๓/๑๑
(๔) ในท้องที่ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี มีส่วนแคบที่สุดหนึ่งร้อยเมตรและส่วนกว้างที่สุดสามร้อยเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข ๔/๑๑
(๕) ในท้องที่ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีส่วนแคบที่สุดหนึ่งร้อยเมตรและส่วนกว้างที่สุดสองร้อยเจ็ดสิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข ๕/๑๑
(๖) ในท้องที่ตำบลบางพระ และตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีส่วนแคบที่สุดหนึ่งร้อยเมตร และส่วนกว้างที่สุดหนึ่งร้อยสามสิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข ๖/๑๑
(๗) ในท้องที่ตำบลนาเกลือ และตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มีส่วนแคบที่สุดเจ็ดสิบเมตร และส่วนกว้างที่สุดสองร้อยสิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข ๗/๑๑
(๘) ในท้องที่ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ และตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุงจังหวัดชลบุรี มีส่วนแคบที่สุดหนึ่งร้อยสามสิบเมตร และส่วนกว้างที่สุดหนึ่งร้อยหกสิบเมตร ทั้งนี้ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข ๘/๑๑(๙) ในท้องที่ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีส่วนแคบที่สุดหนึ่งร้อยสี่สิบเมตรและส่วนกว้างที่สุดสองร้อยยี่สิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข ๙/๑๑
(๑๐) ในท้องที่ตำบลบางเสร่ และตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีส่วนแคบที่สุดสองร้อยสี่สิบเมตร และส่วนกว้างที่สุดสองร้อยเก้าสิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข ๑๐/๑๑
(๑๑) ในท้องที่ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และตำบลสำนักท้อนตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง มีส่วนแคบที่สุดสองร้อยเมตร และส่วนกว้างที่สุดสองร้อยห้าสิบเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหมายเลข ๑๑/๑๑

มาตรา๔ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับได้มีกำหนดสี่ปี
มาตรา๕ ให้เริ่มต้นเข้าสำรวจที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายในแนวเขตที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ
มาตรา๖ ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าหน้าที่ในการเวนคืน
มาตรา๗ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องสร้างทางรถไฟเครื่องประกอบทางรถไฟ ทาง และสิ่งจำเป็นอื่นตามโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ในท้องที่แขวงคลองสามประเวศ แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ตำบลราชาเทวะตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ตำบลบางเตย ตำบลวังตะเคียน ตำบลท่าไข่ตำบลบางขวัญ ตำบลบ้านใหม่ ตำบลบางไผ่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ตำบลบ้านสวนตำบลหนองข้างคอก ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมืองชลบุรี ตำบลบางพระ ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชาตำบลนาเกลือ ตำบลหนองปรือ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง ตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และตำบลสำนักท้อน ตำบลพลา อำเภอบ้านฉางจังหวัดระยอง เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค สมควรกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่ดังกล่าว เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องได้มาโดยแน่ชัด จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้