ทบ.เตรียมใช้ท่ามาตรฐานแบบสหรัฐฯ ทดสอบหน่วยรบก่อน

พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตรวจเยี่ยมการทดสอบสมรรถภาพร่างกายคือท่าดันพื้น ท่าลุกนั่ง และวิ่ง 2 กิโลเมตร จากนั้นเป็นการทดสอบภาษาอังกฤษ และการทดสอบความรู้ที่เกี่ยวข้องการปฏิบัติงานของผู้บังคับหน่วยระดับกรม และกองพัน ประจำปีงบประมาณ 2563 ครั้งที่ 1 โดยมีกำลังพลทดสอบร่างกาย 331 นาย จากยอดทั้งหมด 351 นาย ทั้งนี้ มี พันเอก แลรี่ เรดม่อน ผู้ช่วยทูตทหารบกสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยทั้งนี้ ได้มีการสาธิตการเสริมสร้างสมรรถภาพหน่วยกำลังรบ หรือ ACFT (Army Combat Fitness Test) เพิ่มขึ้นมาอีก 6 สถานี ประกอบด้วย1.ท่างอเข่าครึ่งนั่ง ยกบาร์น้ำหนักขึ้น 3 ครั้ง หรือ ท่า Maximum Deadlift เพื่อทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังและกล้ามเนื้อขา ในการยกและเคลื่อนย้ายสิ่งของ อาวุธยุทโธปกรณ์ หรือบุคคลที่มีน้ำหนัก ตลอดจนการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บออกจากสนามรบได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ2.ท่าย่อตัว ทุ่มน้ำหนักขนาด 10 ปอนด์ ข้ามศีรษะไปด้านหลัง หรือท่า Standing Power Throwt เพื่อวัดระดับกำลังของกล้ามเนื้อส่วนบน และส่วนล่าง ในการยก ทุ่ม ขว้าง หรือเคลื่อนย้ายส่งผ่านสิ่งของ กำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ข้ามเครื่องกีดขวาง หรือบุคคลทำการรบ3.ท่าดันพื้นละมือแล้วกางเเขน หรือท่า Hand Relase Push-up ภายในเวลา 2 ที เพื่อวัดระดับความเเข็งเเรงและทนทานของกล้ามเนื้อส่วนบนของร่างกาย หัวไหล่และเเขนในการผลัก ดัน บุคคล ยานพาหนะ หรือเครื่องกีดขวาง ตลอดจนเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลทำการรบและการต่อสู้ป้องกันตัว4.ท่าวิ่งไป-กลับ พร้อมลากและยกสิ่งของในระยะทางทั้งหมด 250 เมตร หรือ Spint , Drag , Carry  เพื่อวัดความแข็งแรง ของพลังกล้ามเนื้อ และความสามารถในการออกแรงภายในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อต้องมีการเคลื่อนไหวทันที ตามสัญชาตญาณ เอื้อต่อการเคลื่อนย้ายสิ่งของ อาวุธยุทโธปกรณ์หรือผู้บาดเจ็บออกจากการประทะ โดยการยก ลาก หรือวิ่งแบบรวดเร็ว5.ท่าดึงข้อแบบยกเข่าแตะศอก หรือ ท่า Leg Tuck เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งและทนทานของกล้ามเนื้อหน้าท้อง และกลุ่มกล้ามเนื้อแกนหลักที่ใช้ในการยึด เกาะ ปีนข้ามสิ่งกีดขวาง ตลอดจนการปีนเชือกและไต่เชือก6.วิ่งระยะทาง 2 ไมล์ 

 เพื่อวัดระดับความทนทานของการหมุนเวียนโลหิตในร่างกาย และความแข็งแรงของร่างกายส่วนล่าง ในการเคลื่อนไหวทางเท้า เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฎิบัติภารกิจ ที่ต้องใช้ความทรหดอดทนสูงอย่างต่อเนื่อง เช่นการแทรกซึมทางเท้า หรือการเดินทางไกลประกอบน้ำหนักเครื่องสนาม เป็นต้นพลเอก อภิรัชต์ กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมการทดสอบว่า กองทัพบกยังคงใช้เกณฑ์มาตรฐานในการทดสอบสมรรถภาพร่างกายเหมือนเดิมทุกประการ ส่วนการสาธิตการเพิ่มขีดความสามารถให้กับหน่วยกำลังรบ ตั้งแต่ผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับหมวด ซึ่งท่าต่างๆ ได้นำมาจากการคิดค้นของกองทัพบกสหรัฐฯ และประเทศอื่น เพราะเขาให้ความสำคัญกับกำลังพลที่ต้องออกไปตรากตรำ ไปฝึก ต้องแบกเป้สนาม แบกอาวุธ บางครั้งได้รับบาดเจ็บก็ต้องแบกเพื่อนร่วมงานที่ได้รับบาดเจ็บ จึงมีความสำคัญที่จะต้องสร้างกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆในทุกท่า ซึ่งจากการลองทดสอบด้วยตัวเอง ซึ่งอายุ 60 ปี วัยใกล้เกษียณ พบว่า แก่ไปเยอะ คงสู้รุ่นผู้พัน ผู้การ ไม่ได้ และทุกท่าก็ทำให้มองเห็นว่า ถ้าจะต้องลากอะไรซักอย่าง ลากเพื่อน ลากยุทโธปกรณ์ ในสนามรบ หรือในภูมิประเทศ มันก็ต้องใช้การเตรียมกล้ามเนื้อลักษณะนี้ ซึ่งไม่ใช่แค่ทหาร แต่พลเรือนในต่างประเทศ ก็ให้ความสำคัญ เช่นเดียวกับที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สนับสนุนให้มีการแข่งขันวิ่งตามภูมิประเทศผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวถึงการเกณฑ์ทหารต่อจากนี้ ว่า เมื่อมีการแบ่งตามกองทัพภาคแล้ว ก็ต้องทำการทดสอบร่างกาย เพราะทหารเรื่องความแข็งแรงต้องมาก่อน อีกครั้งการเป็นพลทหารก็สามารถไปเรียนหลักสูตรร่ม ที่มา อยู่ 2 หลักสูตรได้ โดยรุ่นหนึ่งสามารถเรียนได้ครั้งละ 250 คน  

ทั้งนี้เมื่อผ่านเกณฑ์ของการเรียนร่มแล้ว จะมีคะแนนพิเศษที่สามารถนำไป สอบเข้าโรงเรียนนายสิบทหารบกได้ต่อไป ถือเป็นการสร้างแนวทางในการรับราชการ ดังนั้นผู้ที่ถูกเกณฑ์ทหารเข้ามา ก็จะมีเส้นทางการรับราชการของตัวเอง แต่ใครที่อ่อนแอหรือมีปัญหา ไม่อยากเป็นทหารต่อ ก็ไม่เป็นไร เพราะในแต่ละปีมีผู้สมัครมาเยอะอยู่แล้ว จะได้ตอบคำถามสังคมได้ ไม่ใช่เป็นพลทหารแล้วไม่มีอะไร ดีกว่าการทำงานบริษัทอีก มีระบบการรักษาพยาบาลมีสวัสดิการต่างๆ มีบ้านพัก ซึ่งคนที่ทำงานบริษัทต่างๆ บางคนไม่มีแบบนี้จากนั้นช่วงบ่าย จะเป็นการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกวาระพิเศษ คาดว่าผู้บัญชาการทหารบก จะเน้นย้ำเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะตามแนวชายแดน และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่