svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก"พ.ต.อ.สุรพงษ์"ยักยอกที่ดิน

19 ธันวาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืนจำคุก "พ.ต.อ.สุรพงษ์ กิตติธิรางกูร" ฐานยักยอก กรณีเบียดบังเอาที่ดินสินสมรสกึ่งหนึ่งของโจทก์ ไปเป็นของจำเลย โดยทุจริต อุทธรณ์จำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น เห็นพ้องศาลชั้นต้นจำคุก 1 เดือน

ศาลแขวงสงขลา วันนี้ (19 ธ.ค.) นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 9ในคดีที่นายพินิจ รุจิรวนิช นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยื่นฟ้องน.ส.ฉัตรแก้ว ธนินทรานนท์ อดีตภรรยา เป็นจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ที่ดินสินสมรส มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท และให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานที่ดิน และยื่นฟ้อง พ.ต.อ.สุรพงษ์ กิตติธิรางกูร เป็นจำเลยที่ 4 ฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2560 คดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุกน.ส.ฉัตรแก้ว 2 เดือน ปรับ 2 หมื่นบาท แต่ให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี ส่วน พ.ต.อ.สุรพงษ์ ศาลพิพากษาจำคุก 1 เดือน ไม่รอลงอาญา กระทั่งล่าสุด ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น สั่งจำคุก พ.ต.อ.สุรพงษ์ เป็นเวลา 1 เดือน ส่วนน.ส.ฉัตรแก้ว ศาลลดโทษลงเหลือหนึ่งกระทง เป็นจำคุก 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท และให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี ในความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน สำหรับคดีนี้ นายพินิจ ได้ยื่นฟ้องต่อศาล กล่าวหาบุคคลทั้งสองร่วมกันยักยอกที่ดิน ตั้งอยู่ใน อ.หาดใหญ่ และอ.บางกล่ำ จ.สงขลา ซึ่งเป็นที่ดินที่นายพินิจ ซื้อร่วมกันกับน.ส.ฉัตรแก้ว เมื่อปี 2558 ขณะยังจดทะเบียนสมรส และใช้ชื่อ น.ส.ฉัตรแก้ว ภรรยา เป็นผู้ครอบครองที่ดินเพียงคนเดียว หลังจากนั้นทั้งคู่จดทะเบียนหย่ากันเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2560 ต่อมานายพินิจ พบว่า เดือนพฤศจิกายน ก่อนจดทะเบียนหย่าหนึ่งเดือน น.ส.ฉัตรแก้ว นำที่ดินที่ซื้อร่วมกันในช่วงที่จดทะเบียนสมรส ถือเป็นสินสมรสที่นายพินิจ มีสิทธิ์ในที่ดินกึ่งหนึ่งนั้น โอนไปเป็นชื่อของ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ที่สำนักงานที่ดินในลักษณะทำสัญญาซื้อขายกัน และบางส่วนอ้างว่าโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อชดใช้หนี้เงินกู้ที่น.ส.ฉัตรแก้ว กู้ยืมมาจาก พ.ต.อ.สุรพงษ์ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของน.ส.ฉัตรแก้ว และพ.ต.อ.สุรพงษ์ ได้กระทำผิดร่วมกันฐานยักยอกที่ดินสินสมรส และให้การเท็จต่อพนักงานที่ดิน โดย น.ส.ฉัตรแก้ว แจ้งกับเจ้าพนักงานที่ดิน ขณะไปทำนิติกรรมว่า สถานะตัวเองเป็นโสด ทั้งที่จดทะเบียนสมรสแล้ว ศาลจึงพิพากษาจำคุก น.ส.ฉัตรแก้ว และพ.ต.อ.สุรพงษ์ดังกล่าว

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก"พ.ต.อ.สุรพงษ์"ยักยอกที่ดิน

ทั้งนี้ แม้ว่าคดีนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับการที่ ร.ต.อ.วัชรินทร์ เบญจทศวรรษ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ที่หน้าบ้านพักเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 แต่โจทก์ในคดีนี้ คือนายพินิจ เป็น 1 ในพยานที่ตำรวจภูธรสงขลา เรียกเข้าให้ปากคำเมื่อวันที่ 27 มีนาคม เพื่อหาสาเหตุการตาย เนื่องจาก ร.ต.อ.วัชรินทร์ เข้าไปช่วยคดีที่นายพินิจถูกชุดสืบสวนจังหวัดสงขลา พาตัวไปจากหน้าศาล แล้วกักขังหน่วงเหนี่ยวที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งนาน 3 ชั่วโมง นอกจากกักขังหน่วงเหนี่ยว นายพินิจ ยังถูกทำร้ายร่างกายด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวนายพินิจ ได้ยื่นฟ้องตำรวจชุดดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค9 และศาลรับคำฟ้องไว้ไต่สวนมูลฟ้องในปลายเดือนมกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สุรพงษ์ ได้ใช้สิทธิ์ยื่นหลักทรัพย์ เพื่อประกันตัวระหว่างฏีกา ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติ ต้องขออนุญาตศาลฎีกาก่อน แต่หากศาลฎีกาเห็นว่า คำพิพากษาทั้งสองศาลชอบแล้ว และไม่มีข้อกฎหมายต้องวินิจฉัย ศาลมีอำนาจยกคำขอ ถือว่าคดีถึงที่สิ้นสุดทันทีไม่ต้องพิจารณาในศาลฎีกา ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจศาลฎีกา

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก"พ.ต.อ.สุรพงษ์"ยักยอกที่ดิน

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก"พ.ต.อ.สุรพงษ์"ยักยอกที่ดิน

logoline