พล.ท.พงศกร รอดชมพู ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ฐานะคณะกรรมการพิจารณาวินัย ส.ส. กล่าวยืนยันต่อการลงมติขับ 4 ส.ส.ให้พ้นจากพรรคอนาคตใหม่ ว่าไม่ใช่เพราะการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรสวนทางกับมติพรรค เพราะในการพิจารณาของคณะกรรมการวินัย ไม่ได้นำประเด็นดังกล่าาวพิจารณา เนื่องจากกรลงมติในสภาฯ นั้น ถือเป็นการใช้สิทธิโดยอิสระปราศจากการครอบงำตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันบัญญัติไว้ แต่เหตุผลที่ต้องขับออกจากพรรคเพราะส.ส.ทั้ง 4 คนมีอุดมการณ์ที่สวนทางกับพรรค อีกทั้งยังพบการให้สัมภาษณ์กล่าาวร้าย รวมถึงพบการเดินงานการเมืองในลักษณะเก่าคือการเดินขอและหางบประมาณเพื่อทำโครงการในพื้นที่ของตนเอง
นอกจากนั้นยังมีกรณีที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ต่อการนำชุมนุมลักษณะแฟลซม็อบ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่สกายวอร์ค ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง แม้การไม่เห็นด้วยจะเป็นสิทธิส่วนตัว แต่เขาไม่มองว่าการใช้สิทธิของนายธนาธร ในฐานะประชาชน ไม่ใช่ส.ส.
"สำหรับส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ที่จะไปร่วมชุมนุมทางการเมือง ผมบอกเขาแล้วว่าอย่าไป เพราะต้องแยกให้ชัดเจนระหว่างการทำงานการเมืองในระบบรัฐสภากับการเมืองนอกสภาฯต้องแยกให้ชัดเจน แต่มีบางคนที่ยังไป ซึ่งผมมองว่าหากจะไปร่วมชุมนุม ร่วมแรลลี่กิจกรรม ควรลาออกจากส.ส.ก่อน เหมือนอย่างกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากส.ส.
เพื่อจัดการชุมนุมทางการเมือง แต่หากส.ส.ของพรรคจะไปให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุม แค่ต้นทาง หรือ ปลายทาง หรือขึ้นเวทีวิชาการนั้นยังอยู่ในขอบเขตที่ทำได้ ส่วนกรณีที่น.ส.พรรณิการ์ วานิชและนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคไปร่วมชุมนุม ผมมองว่าเป็นแค่ครั้งแรก และบอกกล่าวไปแล้วถึงความเหมาะสม" พล.ท.พงศกร กล่าว.