หนุ่มพลเมืองดีชะตาขาด เข้าหย่าศึก 2 ผัวเมียร้านยำฯ ถูกมีด 8 นิ้วแทงดับ
หนุ่มพลเมืองดีวัย37 นั่งสังสรรค์กับเพื่อนชะตาขาด เหลือบไปเห็น 2 หนุ่มสาวเจ้าของร้านยำฯ เปิดศึกทะเลาะวิวาท ปรี่เข้าห้ามปรามหวังหย่าทัพ พลาดท่าถูกฝ่ายผัวคว้ามีดทำครัวยาว 8 นิ้ว จ้วงแทง 4 แผลอาการสาหัส ก่อนทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจคาซอยเพชรบุรี 22 หลังคนร้ายก่อเหตุซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนี ส่วนเมียเจ้าของร้านหายตัวไร้ร่องรอย ชาวเวียดนาม
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. ร.ต.อ.อรุณ สืบสิงห์ รองสารวัตร ( สอบสวน ) สน.พญาไท ได้รับแจ้งเหตุมีชายถูกแทงได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าปากซอยเพชรบุรี 22 แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน โดยประสานรถพยาบาลหน่วยกู้ชีพ รพ.รามาธิบดี และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุบริเวณปากซอยเพชรบุรี 22 หน้าร้านขายโทรศัพท์มือถือ แอดพี โฟน พบโต๊ะเก้าอี้ ขวดเบียร์ และข้าวของร้านยำเจ้อั๋นคนละยำ ที่อยู่ข้างกันกระจักกระจายไปทั่วบริเวณ และยังพบนายขจรจิตร จันแจ้ง อายุ 37 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงที่ลำตัวด้านขวา จำนวน 2 แผล เหนือราวนมซ้าย 1 แผล และใต้ราวนมด้านซ้าย 1 แผล รวม 4 แผล นอนหายใจรวยรินอยู่บนฟุตปาทหน้าร้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเร่งให้การช่วยเหลือนำตัวส่ง รพ.ราชวิถี และไม่ทันการนายขจรจิตร ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการตรวจสอบโดยรอบพบมีดทำครัวยาวประมาณ 8 นิ้วตกอยู่หน้าปากซอย จากการสอบสวนนายหนุ่ย (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี พยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 20.00 น. หลังจากที่ตนเองเสร็จจากการขายของที่ห้างพันธ์ทิพย์ฯ ได้เดินทางมาที่ร้านขายโทรศัพท์ของเพื่อนรุ่นพี่ เพื่อสังสรรค์กัน โดยมีตนเอง เจ้าของร้าน นายขจรจิตร (ผู้ตาย) และเพื่อนเจ้าของร้านอีก 2 คน รวม 5 คน นั่งดื่มกินกันที่หน้าร้าน กระทั้งเวลาประมาณ 21.30 น. ชายผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นแฟนของน.ส.อั๋น ชาวเวียดนาม เจ้าของร้านยำเจ้อั๋นคนละยำ ที่อยู่ข้างร้านโทรศัพท์ ซึ่งนั่งดื่มเบียร์อยู่ระแวกนั้น ได้เดินมาที่ร้านแฟนสาว
ก่อนจะมีปากเสียกัน ซึ่งขณะเกิดเหตุพวกตนได้พยายามเข้าห้ามปราม และได้แยกย้ายกันไปแล้ว 1 รอบ แต่ผู้ก่อเหตุก็กลับอีกครั้งก่อนจะมีปากเสียงกันรอบ 2 ซึ่งพี่เจ้าของร้าน และนายขจรจิตร ผู้ตายได้พยายามเข้าไปห้ามปรามอีก จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินไปหยิบมีดหั่นผักที่ร้านแฟนสาว พร้อมกับเดินตรงปรี่มาที่หน้าร้านโทรศัพท์ พร้อมกับตะโกนเสียงดังว่าเรื่องผัวเมียใครอย่ามายุ่ง ทำให้พวกตนต่างพากันวิ่งหนีกันไปคนละทิศคนละทาง แต่นายขจรจิตร วิ่งไม่ทันจึงถูกผู้ก่อเหตุใช้มีดจ้วงแทงหลายครั้ง เมื่อตนตั้งสติได้จึงคว้าเก้าอี้พลาสติกฟาดไปที่ตัวผู้ก่อเหตุ 1 ครั้ง จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ถือมีดวิ่งไล่แทงตน แต่วิ่งไม่ทัน กระทั่งมาทราบภายหลังว่าผู้ก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง (สีดำ) ที่จอดอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุหลบหนีไป ส่วนน.ส.อั๋น เจ้าของร้านยำฯ แฟนผู้ก่อเหตุได้หายตัวไปหลังเกิดเหตุเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุและน.ส.อั๋น มักจะมีเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ ซึ่งพวกตนก็ไม่ทราบว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร
ทางด้าน พ.ต.อ.บวรภพ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบชื่อผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของเจ้าของร้านยำฯ หญิงสาวชาวเวียดนาม ส่วนเจ้าของร้านยำฯ หลังเกิดเหตุได้หายตัวไปด้วย ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่าทั้งคู่ไปด้วยกันหรือไม่ จากการสอบสวนพยานระบุว่า ผู้ตายไม่ได้เคยมีเรื่องกับผู้ก่อเหตุมาก่อน แต่เป็นเพียงพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ แล้วเข้าไปห้ามปราม จนถูกอาวุธมีดแทงจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฯ กำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี รายงานข่าวระบุว่า สำหรับผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงนายขจรจิตร เสียชีวิตในครั้งนี้คือนายมานิต มีมาก อายุ 39 ปี แฟนเจ้าของร้านยำ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
