ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย หรือเคทีซี ระบุ แผนธุรกิจของเคทีซีในอนาคต จะมุ่งสร้างธุรกิจให้เติบโตด้วยวิสัยทัศน์ใหม่สู่การเป็นแพลทฟอร์มการเงินหลักด้วย 2 แพลทฟอร์ม คือ "แพลทฟอร์มการชำระเงิน" และ "แพลทฟอร์มสินเชื่อรายย่อย"
ทั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจใหม่เข้าไปในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันและธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพิ่มเติมจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลที่มีอยู่ ซึ่งจะทำให้เคทีซีสามารถนำเสนอสินเชื่อให้กับผู้บริโภคได้หลากหลายและครบวงจร ทั้งสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน สินเชื่ออเนกประสงค์ที่ให้กับรายย่อยระดับจังหวัด หรือพิโกพลัส และธุรกิจสินเชื่อรายย่อยสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้มีรายได้ไม่แน่นอน หรือนาโนไฟแนนซ์ ซึ่งทยอยเปิดให้บริการแล้ว และคาดว่าทั้ง 3 ธุรกิจใหม่นี้ จะสามารถเริ่มรับรู้กำไรได้ประมาณ 18-24 เดือน นับตั้งแต่วันที่ดำเนินธุรกิจจริง
ด้าน พิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจบัตรเครดิตเคทีซี กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยปีนี้จะชะลอตัว แต่ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีสามารถเติบโตได้ถึง 10% หรือประมาณ 1.5 แสนล้านบาท และคาดว่าสิ้นปี 2562 จะสามารถรักษาสัดส่วนการเติบโตของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโดยรวมได้ที่ประมาณ 10% ส่วนปี 2563 มีแนวคิดการทำตลาดบัตรเครดิตเคทีซีที่กำหนดไว้คือ "Everyone, everyday, and everywhere" ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้บัตรเคทีซีเป็นบัตรที่สมาชิกเลือกใช้ทุกวันและทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์หรือการใช้จ่ายที่ร้านค้าในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม
ขณะที่ ปิยศักดิ์ เตชะเสน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส- ช่องทางจัดจำหน่ายและธุรกิจร้านค้าเคทีซี กล่าวว่า กลยุทธ์การขยายฐานสมาชิกในปี 2563 เป็นความท้าทายและสร้างโอกาสของเคทีซี โดยจะมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีความหลากหลายและครบวงจรมากขึ้น ซึ่งตั้งเป้าหมายสมาชิกบัตรเครดิตใหม่ 3.5 แสนใบ และบัตรกดเงินสด "เคทีซี พราว" 2.1 แสนใบ