svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

กรุงศรีคาด 'เงินบาท' ปี 63 แข็งค่า 1-2%

13 ธันวาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ธนาคารกรุงศรีฯ มองเงินบาทปีหน้าแข็งค่า 1-2% ในกรอบ 29.25-31 บาท/ดอลลาร์ จับตาสงครามการค้า-เบร็กซิทยังมีผลต่อตลาด คาดจีดีพีปีนี้โต 2.4% ปี 63 โต 2.5% เชื่อ พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 กว่า 6.5 แสนล้านบาท ดันการลงทุนภาครัฐขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระบุ แนวโน้มค่าเงินบาทในปี 2563 ยังมีโอกาสแข็งค่าขึ้นในอัตราที่ชะลอลง โดยคาดว่าจะแข็งค่าประมาณ 1-2% และเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.25-31 บาทต่อดอลลาร์ จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 30.40 บาทต่อดอลลาร์ และใกล้เคียงกับค่าเงินอื่นในภูมิภาคมากขึ้น โดยเงินดอลลาร์มีทิศทางอ่อนค่าลง เพราะคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด อาจลดดอกเบี้ยลงอีกและความเสี่ยงทางการเมืองในสหรัฐ ขณะที่เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่มีเสถียรภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดเริ่มระมัดระวัง เพราะมีการส่งสัญญาณดูแลค่าเงินบาทเพิ่มเติมจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ที่มองว่าค่าเงินบาทแข็งค่าเกินปัจจัยพื้นฐาน และเงินบาทกำลังจะเปลี่ยนทิศ
ขณะที่แนวโน้มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้ คาดว่าจะเติบโต 2.4% และขยายตัวได้ 2.5% ในปีหน้า โดยมองว่า พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 กว่า 6.5 แสนล้านบาท ที่จะเริ่มใช้ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผ่านการลงทุนภาครัฐ ส่วนการส่งออกคาดว่าปีนี้จะติดลบที่ 2.5% ส่วนปีหน้าพลิกกลับเป็นบวกที่ 1.5%
ด้านอัตราดอกเบี้ยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.25% ตลอดปี 2563 เชื่อว่าหากจะลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมีโอกาสลดได้ 1 ครั้งเท่านั้น และประสิทธิผลของการลดดอกเบี้ยจะค่อนข้างมีจำกัด ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกมองว่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น และมีแนวโน้มที่เงินทุนจะไหลเข้าไทยจากปีนี้ที่เป็นการไหลออก
สำหรับปัจจัยที่ยังต้องติดตาม การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน ที่คาดว่าจะยืดเยื้อถึงปีหน้า และการเมืองในสหรัฐที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 รวมทั้งรอยต่อการที่สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit และการสรรหาผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ สำหรับวาระปี 2563-2568 ซึ่งจะมีผลต่อการทำนโยบายการเงินของไทยด้วย

logoline