นางวารุณี วุฒิพงศ์ อายุ 76 ปี เปิดเผยว่า ตนเดินทางออกจากบ้าน ตั้งแต่เวลา07.00 น. นั่งรถสองแถวแดงจากย่านชัยพฤกษ์ เขตตลิ่งชัน ตั้งใจจะมาชื่นชมพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 10 ยอมรับว่า ขบวนเรือมีความสวยงาม ประทับใจมาก และดีใจที่ได้เห็น พระพักตร์ของในหลวงแม้จะมองไม่ชัดก็ตาม เนื่องจากอายุมาก แต่ก็มีความปลื้มปิติยินดีที่ได้เห็น ก่อนหน้านี้ ก็เคยเข้าร่วมพิธีฯในสมัยรัชกาลที่ 9 เป็นพิธีที่สวยงามเช่นกัน โดยปกติชอบเข้าร่วมในงานพระราชพิธีต่างๆ เพราะเป็นโบราณราชประเพณี มีความสวยงาม และมีความหมาย
นางสาววิมลนันท์ โรงคะเจริญรุจน์ อายุ 70 ปี เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาจากบ้านพักย่านวุฒิธากาศ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. ตั้งแต่13.00 น. มาถึงท่ารถไฟ เป็นจุดที่เปิดให้ประชาชนชื่นชมกระบวนเรือ ในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาสมัครคอยอำนวยความสะดวก จัดสถานที่ จัดเก้าอี้ ให้กับประชาชน โดยตนได้ที่นั่งค่อนข้างไกล เนื่องจากมาช้า แต่ก็ได้ชื่นชมพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 10 แม้จะนั่งอยู่ค่อนข้างไกลแต่ก็ได้เห็นในช่วงที่ในหลวงทรงโบกพระหัตถ์ให้กลับประชาชนที่มาเฝ้ารอรับเสด็จ ทำให้รู้สึกปลาบปลื้มปิติเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าร่วมพิธีฯตั้งแต่สมัยในหลวงรัชกาลที่ 9 ครั้งนี้ก็มีความประทับใจเช่นกัน
ขณะที่ นางสางกัลยรัตน์ มิตตัสสะ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 นางสาวธวัลรัตน์ เจียรวิริยะนาถ และนางสาวภัทรกานต์ พันธุ์ภักดี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสตรีวัดระฆัง เปิดเผยว่า พวกตนเป็นอาสาสมัคร เป็นตัวแทนของโรงเรียนมาช่วยอำนวยความสะดวกและจัดเก้าอี้ให้กับประชาชนที่เดินทางมาเฝ้ารับเสด็จ พวกตนรู้สึกดีใจและภูมิใจมาก ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในพิธีสำคัญ แม้จะทำหน้าที่อาสาสมัครแต่เมื่อเสร็จงาน ก็ได้มาชมขบวนเรือฯ และได้เห็นพระพักตร์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 ทำให้รู้สึกปลื้มปิติ เพราะครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิต รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก