ทั้งนี้เดิมการเริ่มธุรกิจจะมี 5 ขั้นตอน ใช้เวลา 4.5 วัน ได้แก่ 1.การจองชื่อบริษัท 0.5วัน 2.การชำระเงินทุนเข้าธนาคาร 1 วัน 3.การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท 1 วัน4.การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม 1 วัน และ 5.การขึ้นทะเบียนนายจ้าง-ลูกจ้าง 1 วันแต่หากรวม ขั้นตอน 3 4 และ 5 เข้าด้วยกัน ก็จะเหลือเพียงแค่ 1 วันทำให้ช่วยร่นระยะเวลาในการเริ่มต้นธุรกิจภาพรวมเหลือเพียง 2.5 วัน
ขณะเดียวกันจะนำระบบเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาช่วยนายทะเบียนพิจารณาการจองชื่อนิติบุคคลซึ่งจะลดเวลาเหลือเพียง 2 นาที จากเดิม 20 นาที ถึงจะทราบผลก็จะยิ่งทำให้การจดทะเบียนธุรกิจใหม่ทำได้เร็วขึ้นไปอีกโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำโครงการและศึกษาแนวทางการพัฒนาคาดว่าจะสามารถให้บริการได้ภายในปี 2563
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ความคืบหน้าการส่งเสริมร้านค้าปลีกรายย่อย (โชวห่วย) ให้เป็นสมาร์ทโชวห่วยขณะนี้มีร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อพัฒนาและปรับปรุงร้านค้ารวมถึงการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารจัดการค้านค้าแล้ว 5,000 รายหลังจากเปิดตัวโครงการในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จากที่ตั้งเป้าหมาย 30,000รายทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนที่เหลือจะเร่งเข้าไปช่วยพัฒนาต่อไป
นอกจากนี้จะเร่งผลักดันและสร้างโอกาสการทำการค้าออนไลน์ให้กับคนรุ่นใหม่ และนักศึกษาผ่านโครงการ Young Digital Warrior เพื่อผลักดันให้เข้ามาทำการค้าออนไลน์โดยที่ผ่านมาได้อบรมคนรุ่นใหม่ไปแล้ว 1,500 รายทั่วประเทศและยังจะเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการโดยอยู่ระหว่างการผลักดันความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยและจีนในการทำบันทึกความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อนำสินค้าไทยเข้าไปขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ของจีน
สำหรับบริการข้อมูลธุรกิจขอให้มีการต่อยอดโปรแกรมบริการข้อมูลธุรกิจ DBD Datawarehouse ให้สามารถวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยงในการทำธุรกิจได้ละเอียดถึงระดับรายพื้นที่กลุ่ม และขนาดของธุรกิจเพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจและประชาชนมีข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจทำธุรกิจได้แม่นยำมากขึ้น