เปิดศาลโลกกรณีโรฮิงญา ซูจีโดนถล่มก่อนแก้ต่าง

การไต่สวน ซึ่งเป็นการรับฟังข้อมูลด้วยวาจาจากทั้งสองฝ่าย จะดำเนินไปจนถึงวันพฤหัสบดี งานนี้ฝ่ายแกมเบีย เลือกนาวี พิลเลย์ อดีตข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติชาวแอฟริกาใต้มาเป็นผู้พิพากษาสมทบ ส่วนเมียนมาร์เลือกคลอส เครสส์ ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายระหว่างประเทศชาวเยอรมนีมาเป็นผู้พิพากษาสมทบ

ในการเข้าให้ข้อมูลเมื่อวาน ซึ่งเป็นคิวของแกมเบีย ฟิลิป แซนด์ นักกฎหมายสิทธิมนุษยชนของฝ่ายแกมเบีย ได้วิจารณ์นางซูจี หัวหน้าทีมฝ่ายเมียนมาร์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศและที่ปรึกษาแห่งรัฐ ว่าเธอไม่ได้ใช้ "ตำแหน่งทางพฤตินัยในฐานะหัวหน้ารัฐบาล หรืออำนาจทางศีลธรรมที่มีอยู่ของเธอในการขัดขวาง หรือป้องกันเหตุการณ์ที่เกิดชึ้น หรือแสวงหาหนทางอื่นในการปกป้องพลเรือน หรือแม้กระทั่งจะออกมาเปิดเผยและประณามสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้หยิบยกข้อมูลรายละเอียดเรื่องการสังหารชาวโรฮิงญา รวมถึงเด็กและผู้หญิง การกระทำรุนแรงทางเพศ และการทำลายบ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก มานำเสนอต่อศาลในส่วนของนางซูจี ไม่ให้ความเห็นใด ๆ ตอนเดินทางเข้าศาลที่กรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์ และเธอจะให้การปกป้องผลประโยชน์ของชาติในวันนี้ ซึ่งเป็นคิวของเมียนมาร์ ในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศ

คดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมโรฮิงญาถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยแกมเบียยื่นฟ้องในนามขององค์การความร่วมมืออิสลามเมื่อวันที่ 11 พ.ย.โดยกล่าวหาว่า เมียนมาร์ละเมิดอนุสัญญาปี 2491 ว่าด้วยเรื่องอาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จากการสังหารหมู่ ข่มขืน และทำลายชุมชนชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่ห้ามเมียนมาร์กระทำการใด ๆ ที่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกองทัพเมียนมาร์เข้ากวาดล้างชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่เมื่อเดือน ส.ค. 2560 ส่งผลให้ชาวโรฮิงญาราว 740,000 คนอพยพไปยังบังกลาเทศ การสืบหาข้อเท็จจริงของสหประชาชาติ สรุปว่า ปฏิบัติการของเมียนมาร์มีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และรัฐบาลต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ แต่เมียนมาร์ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า ต้องการกวาดล้างกองกำลังติดอาวุธที่ก่อเหตุโจมตีฝ่ายความมั่นคง แต่ก็บอกว่าพร้อมจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิด หากพบหลักฐานที่มากพอ ขณะที่ซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพปี 2534 ถูกวิจารณ์จากนานาชาติว่าไม่พยายามปกป้องชาวโรฮิงญา และการมาขึ้นศาลในครั้งนี้เธอมาเพื่อปกป้องทหารที่เคยกักบริเวณเธอมานานหลายปี
ด้านผู้สนับสนุนโรฮิงญาชุมนุมต่อต้านซูจีที่ด้านนอกศาลโลกในวันนี้ และแกนนำเชื่อว่าผลการตัดสินคดีไม่ว่าแพ้หรือชนะ จะส่งผลกระทบต่อบรรดานายพลของเมียนมาร์ ขณะที่ผู้สนับสนุนนางซูจีจำนวนมากรวมตัวเดินขบวนในนครย่างกุ้งเพื่อส่งกำลังใจให้นางซูจี